Featured

เวียดนามเหนือ ที่เที่ยว ไฮไลท์งามโรแมนติก รับลมหนาว

ทัวร์เวียดนาม
เริ่ม ทัวร์เวียดนาม กันที่เมืองหลวง ฮานอย ซึ่งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศจ้ะ ฮานอยเป็นเมืองโบราณที่แก่กว่าพันปี ในสมัยก่อน เมืองฮานอยได้รับการกล่าวขวัญกันว่าเป็นเมืองหลวงที่งามที่สุดในทวีปเอเชียเชียวนะ จะมองเห็นได้ว่าในเมืองเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์วัวโลเนียลสวยสะกด พร้อมทั้งอาคารบ้านเรือนในสไตล์ดั้งเดิมคลาสสิกไม่แพ้กันจ้ะ เป็นเมืองหลวงที่มีสไตล์ เดินเที่ยวถ่ายภาพกันแบบชิลล์ๆได้มีไม่เบื่อเลยจ้ะ
1.ฮานอยห้องอาหารเสนอแนะในเมียนมาร์
ประเทศพม่า หรือภรรยานมา เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของนักแสวงบุญ ด้วยเหตุว่ามีสถานที่เที่ยวอันศักดิ์สิทธิ์หลายที่ให้ได้ไปเคารพบูชาขอพร เสริมความเป็นมงคลแก่ชีวิต
2.ฮาทดลองเบย์
ใน เวียดนามเหนือ ที่เที่ยว อีกแห่งที่มีชื่อรวมทั้งเป็นที่นิยมสุดๆก็คือที่ ฮาทดลองเบย์ หรือ อ่าวฮาทดลอง ที่เต็มไปด้วยเกาะหินปูนสูงลิ่วตั้งเรียงรายสลับกับเกาะแก่งเล็กๆท่ามกลางน้ำทะเลสีมรกตของอ่าวตังเกี๋ย ซึ่งอ่าวฮาทดลองได้รับการขึ้นบัญชีให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติเมื่อปี 1994 จากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ เพราะว่ามีสิ่งอัศจรรย์จากธรรมชาติเกิดมากมายตรงนี้ ทั้งยังเกาะหินปูนปริมาณ 1,969 เกาะ ที่โผล่พ้นขึ้นมาจากผิวสมุทรกระจัดกระจายอยู่ทั่วอ่าว ซึ่งด้านในเกาะก็ดาดาษไปด้วยอุโมงค์ลมที่โดนคลื่นกัดกร่อนจนกระทั่งเปลี่ยนเป็นความงามอันน่าแปลกใจ ฮาทดลองเบย์ก็เลยเย้ายวนใจนักเดินทางให้มาเยี่ยมตรงนี้ตลอดทั้งปี โดยยิ่งไปกว่านั้นในตอนเดือนสิ้นเดือนพ.ค.และก็ต้นเดือนเดือนสิงหาคม และก็ม.ค.ถึงเดือนมีนาคมซึ่งเป็นตอนฤดูหนาว จะสามารถเห็นทะเลหมอกในช่วงเวลาเช้าได้อย่างแจ่มแจ้งที่สุด บรรยากาศโรแมนติกมากมายๆ
3.เมืองซาขว้าง
การเที่ยวเวียดนาม ฤดูหนาวน่าจะบริบูรณ์ไปมิได้ถ้าเกิดพวกเราพลาด เวียดนามเหนือ ที่เที่ยว ตรงนี้จ้ะ เมืองซาขว้าง ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,650 เมตร ก็เลยมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี รวมทั้งยังสงบเงียบ เหมาะกับมาท่องเที่ยวพักกับครอบครัว หรือจะมาสวีทหวานแหววกับคุณแฟนก็ได้นะ
4. อุทยานแห่งชาติบาเบ๋
สำหรับคนที่อยาก ท่องเที่ยวเวียดนามเหนือ ในบรรยากาศสงบเงียบ รวมทั้งอยากได้หลีกเลี่ยงความยุ่งเหยิงจากกลุ่มคน อีกหนึ่งสถานที่ที่ขอชี้แนะเลยก็คือ อุทยานแห่งชาติบาเบ๋ (Ba Be National Park) สวนที่เปิดเป็นแห่งที่ 8 ของเวียดนามเมื่อปี 1992 กลับไม่ค่อยดังจากนักเดินทางทั่วๆไปสักเท่าไหร่ นอกจากนักเดินทางกรุ๊ปเล็กๆที่นิยมสถานที่ที่เต็มไปด้วยความสงบเงียบ แล้วก็มีอากาศที่บริสุทธิ์ ซึ่งโอบล้อมไปด้วยน้ำตก ถ้ำ เทือกเขาหินปูน ทะเลสาบความยาวกว่า 8 กิโล และก็สัตว์ป่านานาประเภท
5. เกาะกั๊ตบา
กั๊ตบา เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฮาทดลองเบย์ โดยมีพื้นที่แทบ 200 ตารางกิโลเมตร ทำให้ตรงนี้เต็มไปด้วยอุปกรณ์สำหรับอำนวยความสะดวกเยอะแยะ ถ้าหากเทียบกับเกาะอื่นๆในฮาทดลองเบย์ที่ส่วนมากจะเป็นเกาะเล็กเกาะน้อยที่เกือบจะไม่มีอะไรบนนั้น อย่างไรก็ตาม เสน่ห์ของการท่องเที่ยวเกาะกั๊ตบากลับอยู่ที่การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และก็วัตนธรรม ซึ่งมีสถานที่เที่ยวสำคัญบนเกาะเป็น ป้อมแคนนอน ที่ทำขึ้นบนยอดดอยซึ่งเยอะที่สุดในเกาะกั๊ตบา เมื่อครั้งเวียดนามถูกประเทศฝรั่งเศสยึดครอง นักเดินทางที่มาเยี่ยมตรงนี้จะได้มองเห็นแนวบังเกอร์โบราณและก็ฐานหยุดเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งโอบล้อมไปด้วยทิวภาพของเกาะกั๊ตบาที่งดงาม
6. เมืองบัคฮา
ใน เวียดนามเหนือ ที่เที่ยว ธรรมชาติงามๆเว้นแต่ที่เมืองซาขว้างแล้ว ยังมีอีกแห่งที่พลาดมิได้ก็คือ การมาเยี่ยมดินแดนที่ดอกไม้หลากสีที่ เมืองบัคฮา นั่นเองจ้ะ เมืองบัคฮาอยู่ห่างจากเลาไกโดยประมาณ 27 กม. เป็นเมืองเล็กๆที่สงบเงียบ แม้กระนั้นก็ออกจะเป็นที่รู้จักในกลุ่มนักเดินทางไม่แพ้เมืองใหญ่ๆในเวียดนามเลย โดยเขพาสำหรับคนที่พึงพอใจในเรื่องของชนเผ่าต่างๆที่อาศัยอยู่ในเวียดนามเหนือ ไม่ว่าจะเป็นชาวม้ง ไต เย้า ผู้ลาว จีน เวียดนาม ไลชิ เลอหรอ ปกาเก่อญอ ถู่ลาว อื่นๆอีกมากมาย ที่เต็มไปด้วยสีสันของอาภรณ์ที่พวกเขายังคงสงวนวัฒนธรรมของตนได้อย่างดีเยี่ยม จนได้รับฉายาว่า “The Flower Hmong of Sapa”
Featured

ห้องอาหารชี้แนะในเมียนมาร์

ทัวร์พม่า
ตามล่าหาของอร่อยๆที่เมียงมองป่า บริเวณช้อปปิ้งสุดได้รับความนิยมของประเทศเกาหลี ที่มิได้มีดีเพียงแค่ผลิตภัณฑ์แฟชั่น! ของกิน ประเทศเกาหลี สตรีทฟู้ดตรงนี้ก็จัดว่าเด็ดไม่แพ้กัน พวกเราเลยเก็บรวบรวม เมนูอาหารที่ไม่สมควรพลาดเมื่อมาเดินเมียงมองป่า มาฝากกัน จะมีห้องอาหารไหนน่าอร่อยบ้าง ไปดูกันเลย!
ประเทศพม่า หรือภรรยานมา เป็นอีกหนึ่งจุดมุ่งหมายของนักแสวงบุญ เพราะว่ามีสถานที่เที่ยวอันศักดิ์สิทธิ์หลายที่ให้ได้ไปไหว้ขอพร เสริมความเป็นมงคลแก่ชีวิต
สะกดรอยท่องเที่ยวเมียนมาร์ ประเทศเพื่อนบ้านของไทยที่นอกเหนือจากสถานที่เที่ยวแล้ว เมืองนี้ยังมีของกินที่สมบูรณ์บริบูรณ์ อีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองปิ้งกุ้ง วันนี้พวกเราก็เลยจะพาคุณไปติดตามการเดินทางท่องเที่ยวในภรรยานมาของ คุณสมาชิกเลขลำดับ 1877965 สมาชิกเว็บพันทิปดอทคอม ที่คราวนี้คุณได้รีวิวของกินแบบจัดหนักจัดเต็มในเมืองปิ้งกุ้งมาให้พวกเราได้ดูกัน ซึ่งมีทั้งยังของกินแบบรถเข็นข้างถนน ไปจนกระทั่งของกินเลิศหรูในห้าง ภรรยานมาจะมีอะไรน่าอร่อยบ้าง ตามคุณไปดูกันเลยจ้ะ
ปิ้งกุ้ง : ห้องอาหารการะเวก ผลิตขึ้นในปี 2513 โดยเอาอย่างเรือกัญญา หัวเรือเป็นรูปนกการะเวก สัตว์ป่าในหิมพานต์
เป็นร้านอาหารที่สร้างเป็นรูปเรือขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ศูนย์กลางทะเลสาบในเมืองปิ้งกุ้ง ข้างในมีการแสดงทุ่งนาฎศิลปประเทศพม่า จากจุดนี้สามารถเห็นมหาเจดีย์ชเวดากองสะท้อนผิวน้ำด้วย ส่วนของกินจัดเป็นแบบบุฟเฟต์นานาประเทศ รวมถึงของกินพื้นบ้านของประเทศพม่า
ปิ้งกุ้ง : Royal garden restaurant    ร้านอาหารอาหารจีน บรรยากาศในสวน ย้ำในเรื่องของอาหารจีนรวมทั้งซีฟู้ด
อยู่ใกล้กับ Chatrium Hotel บรรยากาศสไตล์ โต๊ะจีน ภายใน ตกแต่งสวยสดงดงาม
ปิ้งกุ้ง : Western Park restaurant ห้องอาหารที่นี้ เด่นในเรื่องเป็ดกรุงปักกิ่งรวมทั้งกุ้งมังกร แนวของกินจะเป็นแบบอาหารจีน เป็ดปิ้งของตรงนี้เมื่อสั่งแล้วจะมาเสิร์ฟพร้อมทั้งแสดงให้มอง ในขณะนี้เปิดทั้งผอง 2 สาขาแล้ว
ปิ้งกุ้ง    : Golden Duck restaurant ห้องอาหารที่เลื่องลือของปิ้งกุ้ง ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะ ของกินอร่อย ร้านค้าที่นี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ชเวดากองอย่างแจ่มแจ้งเนื่องด้วยอยู่ไม่ไกลจากชเวดากอง ห้องอาหารที่นี้จะเต็มไปด้วยผู้คนมาทาน จำนวนมากเป็นพวกคนมั่งคั่งชาวประเทศพม่า
ปิ้งกุ้ง    : Oriental House restaurant ภัตาติดอยู่รติ่มซำ ร้านอาหารของกินติ่มซำเปิดขายในเวลาเช้า เลยเที่ยงตรงไปของก็จะหมดแล้ว ของกินเป็นพวกติ่มซำ บุคลากรจะชูของกินออกมาวางไว้ข้างหน้าพวกเรา สามารถเลือกทานได้ ถ้าหากเข่งไหนไม่ทานจะไม่คิดเงิน และก็ขึ้นชื่อลือชาของตรงนี้ชี้แนะให้ทานคู่กับระเบียงมร้อนของร้านค้าทานคู่ติ่มซำหอมอร่อยมาก ร้านค้าจะตั้งอยู่แถว พิพิธภัณฑสถานประเทศพม่า
หงสาวดี : ร้านอาหารเจ้าสัว ห้องอาหารที่นี้ ตั้งอยู่ที่เมืองหงสาวดี ลือชื่อในเรื่องของกุ้งแม่น้ำ ด้านในร้านค้าตกแต่งแบบโล่งเตียนโปร่งสบาย
ประเทศพม่า : Nandar restaurant ร้านค้านี้ตั้งอยู่ที่เมืองพม่า มีการแสดงโชว์หุ่นกระบอกให้ได้ดู ของกินอร่อย อร่อยคนไทย
Featured

หิวก็แวะมา! 15 สตรีทฟู้ดสุดอร่อยเขตเมียงมองป่า ประเทศเกาหลี

ทัวร์เกาหลี
1. กุ้งล็อบสเตอร์ปิ้งชีสประเทศเกาหลี (Korean Grilled Cheese Lobster)
เพียงแค่มองเห็นก็หิวแล้วววว ล็อบสเตอร์ตัวใหญ่ สด รสหวานนน ราคาโดยประมาณ 15000 วอน หรือราว 450 บาท
2. ชีสปิ้ง (Baked Cheese)
ชีสมอสซาเรลล่าแทงไม้แล้วเอาไปปิ้ง
3. ต๊อกโบกี / ขนมเค้กข้าว (Tteokbokki (Spicy Rice Cakes) )
เป็นขนมเค้กข้าวของเครื่องใช้ประเทศเกาหลี ที่ทำเป็นทรงกระบอกแต่งรสด้วยซอสวัวยกจัง (ซอสเผ็ดสไตล์ประเทศเกาหลี) รวมทั้งบางทีอาจจะใส่ ไข่ เส้นก๋วยเตี๋ยว หรือชีส เพิ่มไปก็ได้ รวมทั้งรายการอาหารนี้มีอยู่ดูเหมือนจะทุกที่ในเมียงมองป่า!
4. จาจังมยอน / บะหมี่ดำ (Jajangmyeon)
หนึ่งในรายการอาหารสุดได้รับความนิยมที่มองเห็นกันเสมอๆในซีปรี่ย์ ประเทศเกาหลีเป็นบะหมี่ราดและก็คลุกด้วยซอสข้นที่ทำมาจากชุนจัง ผัดกับผัก เนื้อหมูหั่น หรือใส่อาหารทะเลลงไปเพิ่มด้วย!
5. ฟิชขนมเค้ก / ลูกชิ้นปลา (Fishcake (Eomuk))
คล้ายทอดมัน ลูกชิ้นปลา บ้านพวกเรา แม้กระนั้นทำเป็นแท่งๆมีผัก เนื้อปลา รวมทั้งแป้งผสมกัน แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยนำไปทอด มีหลายรส
6. คิมบับ / ซูชิประเทศเกาหลี (Gimbap )
คิมบับของประเทศเกาหลี คล้ายกับซูชิของประเทศญี่ปุ่น ใส่ผักดอง หั่นในขนาดพอดิบพอดีคำ คิมบับกับซูชิจะแตกต่างตรงที่คิมบับใช้น้ำมันงาคลุกอาหารแทนน้ำส้มสายชู
7. มันฝรั่งเกลียวทอดกรอบแทงไม้ (Twist Potato with Sausage)
อันนี้คล้ายบ้านพวกเรา เป็นเป็นเงาฝรั่งทอดทิ่มไม้เป็นเกลียวๆแม้กระนั้นมีไส้กรอกเพิ่มเข้ามาอีกชั้นนึง โรยด้วยผงแต่งรส
8. ปลาหมึกยักษ์ทอดกรอบ (Deep Fried Giant Squid (Ojingeo Twigim))
ปลาหมึกยักษ์ทอด แทงไม้แบบวิจิตรตระการตา โรยด้วยเกลือ
9. ไก่ทอดประเทศเกาหลี (Korean Fried Chicken (Yangnyeom Tongdak))
ไก่ทอดประเทศเกาหลีราสด้วยซอสข้นรสหวานๆเผ็ดๆ
10. ก๊วยเตี๋ยวฝัดสไตล์ประเทศเกาหลี (Korean Style Yaki Noodles)
ใบหน้าคล้ายฝัดไทบ้านพวกเรา แต่ว่าอันนี้จะใส่เนื้อหมู กะหล่ำปลี หอมหัวใหญ่ แครอท แต่งรสด้วยซอสวัวยกจังเพื่อเพิ่มความเผ็ดร้อน
11. ผัดวุ้นเส้นประเทศเกาหลี (Bulgogi Beef and Japchae)
ผัดวุ้นเว้นผสมกับเนื้อแล้วก็ผัก แต่งรสด้วยน้ำมันงา ซอสถั่วเหลืองแล้วก็น้ำตาล
12. ไก่ย่างสไปซี่ประเทศเกาหลี (Korean Spicy Chicken Skewers (Dakkkochi))
คล้ายบาร์บาร์บีคิวไก่แทงไม้ปิ้ง ราดด้วยซอสเผ็ดหวาน
13. ทัคคาลบี้มีทบอล (Tteokgalbi Meatballs)
ทัคคาลบี้ รายการอาหารสุดคลาสิกของประเทศเกาหลี ทำมาจากเนื้อเอามาสับๆปั้นเป็นก้อนกลมๆและเอามาทอด ทิ่มไม้แล้วราดด้วยซอส
14. แพนขนมเค้กกิมจิ (Kimchi Pancake (Kimchijeon))
แพนขนมเค้กที่ทำมาจากกิมจิผสมกับเนื้อหรือทูน่า ไข่แล้วก็แป้ง เสิร์ฟพร้อมน้ำปรุงรส
15.สเต๊กเนื้อสไตล์ประเทศเกาหลี (Korean Style Bulgogi Steak)
สเต๊กเนื้อย่างแต่งรสด้วยงา สาหร่ายและก็ซอสบุลโกกิ

5 สุดยอดสถานที่เที่ยวในเวียดนามที่คุณจำเป็นต้องไป อัพเดท 2018

เมื่อเอ๋ยถึงเวียดนามใครๆก็มักจะรำลึกถึง โฮจิมินห์ เมืองหลวงทางตอนใต้ แต่รู้ไหมมีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆน่าดึงดูดอีกมากมายในเวียดนามที่ตอนนี้กำลังเป็นกระแสอย่างมากๆที่คุณไปเวียดนามจำต้องไม่พลาด พวกเรามาอัพเดทกันวันเที่ยวเวียดนามทั้งทีจะต้องสุดๆ5 สถานที่ที่ใดกันบ้าง เริ่มกันเลย

1. เที่ยวบาน่าฮิลล์ ดานัง (Bana Hill, Danang)
บานาฮิลล์ เป็น โฮเต็ล บนยอดดอย อยู่ห่างจากเมืองดานังโดยประมาณ 40 กิโล ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 40-50 นาที ส่วนประวัติความเป็นมา เทือกเขาบานา เคยเป็นสถานที่สำหรับท่องเที่ยวตากอากาศมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยข้างบนเป็นบ้านพักและก็โฮเต็ลของชาวฝรั่งเศสยุคเป็นเจ้าอาณานิคมตั้งแต่ปี 1919 หลังการสู้รบชาวประเทศฝรั่งเศสพ่ายกลับประเทศไป บานาฮิลล์ถูกทิ้งร้างอยู่นับเป็นเวลาหลายปี กระทั่งถูกกลับมาซ่อมแซมเป็นเมืองท่องเที่ยวอีกครั้งในปี 2009 ซึ่งมีการสร้างกระเช้าลอยฟ้า 5,801 เมตร ที่ใช้เวลาถึง 50 นาทีสำหรับการนั่งกระเช้าจากข้างล่างขึ้นไปข้างบน รายจ่ายสำหรับเพื่อการก่อสร้างเคเบิลคาร์ทีแรกๆมีมูลค่า 17.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และช่วงที่สร้างต่อเพิ่มไปถึงยอดดอย มีมูลค่า 5.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ดังนี้ บานาฮิลล์ ถูกสร้างขึ้นตามมาตรฐานยุโรปโดยบริษัทที่มีชื่อจากประเทศออสเตรเลีย วัสดุและก็เครื่องจักรนำเข้าจากยุโรป ตลอดเส้นทางประกอบไปด้วยเสา 24 ต้น มีทั้งปวง 94 เคบิน ตะกร้ามีอีกทั้งแบบเปิดเตียนโอเพ่นเครื่องปรับอากาศกับแบบห้องกระจก แต่ละเคบินบรรทุกผู้โดยสารได้ 10 คน ด้านในหนึ่งชั่วโมงสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 1,500 คน

2.ท่องเที่ยวถ้ำฟองญา (Phong Nha Caves)
เวียดนาม เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าดึงดูดที่มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสถานที่เที่ยวที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และยังรวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความงดงามแล้วก็น่ามาเยือนมากแห่งหนึ่งของโลก รวมทั้งวันนี้เราจะขอชี้แนะสถานที่ท่องเที่ยวที่มีทั้งยังความงาม และความตรึงใจ

โดยสถานที่เที่ยวที่มีชื่อของอุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่างเป็นถ้ำฟองญา (Phong Nha Cave) เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำชอน (Son River) ที่สะสมน้ำจากใต้ดินไหลรวมกันมาจากข้างในถ้ำ และได้รับการยินยอมรับจาก นักตรวจถ้ำทั่วทั้งโลกว่า เป็นถ้ำลำดับแรกๆของโลก เพราะเป็นเจ้าของสถิติถึง 4 รายการได้แก่ น้ำลอดยาวที่สุดในโลก, โถงถ้ำเยอะที่สุด ยาวที่สุด แล้วก็กว้างที่สุด

“อุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง” (Phong Nha-Ke Bang National Park) คืออีกหนึ่งจุดมุ่งหมายด้านการท่องเที่ยวที่น่ามาเยือนมากมายแห่งหนึ่งของประเทศเวียดนาม เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีความสะดุดตาทางธรรมชาติและทางธรรีวิทยา ที่มีวิวัฒนาการมาตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง (หรือราวๆ 400 ล้านปี) โน่นจึงทำให้อุทยานที่นี้มีพื้นที่แบบหินปูนที่ดั้งเดิมที่สุดในเอเซีย อุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง ตั้งอยู่ในอำเภอโบ๊จัก (Bo Trach) และก็อำเภอมิญหวา (Minh Hoa) ในเขตจังหวัดกว๋างบิ่ญ (Quang Binh) และติดชายแดนประเทศลาว ห่างจากกรุงฮานอยมาด้านใต้ราวๆ 500 กิโล ภายในเขตสวนมีกรุ๊ปหินปูนมีขนาดพื้นที่ 857.54 ตารางกิโลเมตร สวนนี้มีชื่อในความสวยสดงดงามของถ้ำที่มีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว และยังเป็นสถานที่ 1 ใน 2 ของโลกที่เป็นหินปูนที่มีสายธารใต้ดินขนาดใหญ่

3.เที่ยวอ่าวฮาทดลอง (Ha Long Bay)
ฮาทดลองเบย์ หรือ อ่าวฮาทดลอง คือสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกที่ในประเทศเวียดนามที่เกียรติศักดิ์มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ซึ่งนักท่องเที่ยวทุกคนไม่สมควรพลาดดู โดยที่นี่ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากองค์กรยูเนสโกด้วยเหตุว่ามีความงดงามของธรรมชาติมากมาย

ฮาทดลองเบย์ เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ย เมืองฮาทดลองตั้งอยู่ทางภาคเหนือของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม อยู่ภายในเขตพื้นที่จังหวัดกว่างนิงห์ ไม่ไกลจากกรุงฮานอยเมืองหลวง โดยห่างออกไปทางทิศตะวันออกประมาณ 170 กิโลเมตร แล้วก็อยู่ใกล้กับสาธารณรัฐประชาชนจีน ฮาทดลองเบย์ มีพื้นที่ทั้งปวง 1,500 ตารางกิโลเมตร มีชายฝั่งยาว 120 กิโลเมตร มีเกาะหินปูนปริมาณ 1,969 เกาะโผล่พ้นขึ้นมาจากผิวสมุทร บนยอดของแต่ละเกาะมีต้นไม้ขึ้นอยู่กับอย่างหนาแน่น หลายเกาะมีถ้ำขนาดใหญ่ที่มีความสวยสดงดงามซุกซ่อนอยู่

สำหรับประวัติความเป็นมา ฮาลองเบย์ มีชื่อตามการออกเสียงในภาษาเวียดนามว่า Vinh Ha Long หมายถึง อ่าวมังกรผู้ดำตรง ตามตำนานชาวบ้านเวียดนามบอกเล่ากันว่า ในอดีตกาลที่ชาวเวียดนามกำลังสู้รบกับจีน เทพเทวดาได้ส่งกองทัพมังกรลงมาช่วยเหลือ ซึ่งต่อมามังกรพวกนี้ได้ดำตรงลงสู่ทะเลรอบๆอ่าวฮาทดลอง ทำให้มีเพชรนิลจินดาแล้วก็หชูพุ่งกระเด็นออกมาเปลี่ยนเป็นเกาะแก่งน้อยใหญ่กระจายตัวเป็นเกราะป้องกันผู้บุกรุก และก็บางตำนานเอ๋ยถึงสัตว์โบราณที่ชื่อว่า Tarasque ซึ่งมั่นใจว่าอาศัยอยู่ที่บริเวณก้นอ่าว

4.ท่องเที่ยวเมืองซาขว้าง ทุ่งนาข้าวบนเขา (Sa Pa)
ซาปา คือเมืองท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์มากที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศเวียดนาม ด้วยพื้นที่อันงดงามที่รุมล้อมไปด้วยขุนเขาจนได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลังคาโลกอินโดจีน ส่วนอากาศหนาวเย็นแทบทั้งปีทำให้ตอนเช้าของตรงนี้มีไอหมอกปกคลุมงดงาม ในแต่ละปี ซาปา ก็เลยล่อใจนักเดินทางจากทั้งโลกให้แวะเวียนมาท่องเที่ยวได้จำนวนมาก

ในส่วนของประวัติความเป็นมา ซาขว้าง เป็นเมืองเล็กๆที่นักเดินทางต่างชาติเริ่มเดินทางมาพักตั้งแต่ยุคที่ฝรั่งเศสยังปกครองประเทศเวียดนาม โดยชาวยุโรปติดอกติดใจตรงนี้เพราะเหตุว่าอากาศดีและเงียบสงบ ถัดมาซาปาก็เลยเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากขึ้นเรื่อยๆกระทั่งมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมหลายหมื่นคนต่อปี

5.ท่องเที่ยวหมุยแหน ภูเขาทรายสองสี (The Sand Dunes of Mui Ne)
นักเดินทางที่เดินทางมายังที่แห่งนี้รับรองได้เลยว่าจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่ใกล้เคียงกับทะเลทรายด้วยเหตุว่าภูเขาทรายที่หมุยแหนหรือที่หลายท่านเคยชินกับสำเนียง “มุยเน่” นั้น มีขนาดใหญ่และอยู่ติดกับชายทะเล ก็เลยมีแดดและก็ลมที่แรงมากทีเดียว ตรงนี้มีเนินทรายอยู่ 2 แห่งเป็นภูเขาทรายขาวรวมทั้งเทือกเขาทรายแดง ซึ่งเทือกเขาทรายขาวนั้นมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Bau Trang รวมทั้งมีร้านอาหารขนาดเล็กเปิดบริการสำหรับนักท่องเที่ยวด้วยสำหรับเทือกเขาทรายแดงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่า แต่เป็นที่นิยมมากยิ่งกว่าในสายตาของช่างถายภาพ เหตุเพราะสีทรายมีสีแดงเข้ม ถ่ายภาพออกมาแล้วสีงามกว่าที่ภูเขาทรายขาว ส่วนกิจกรรมยอดฮิตหมายถึงการเล่นกระดานเลื่อนบนเนินทรายสูงลงมาข้างล่างซึ่งอุปกรณ์สำหรับเล่นนั้นสามารถหาเช่าได้จากร้านที่ตั้งอยู่ใกล้ๆภูเขาทราย

ข้อมูลเพิ่มเติม : เปิดให้บริการตลอดทั้งปี แม้กระนั้นตอนที่ดีเยี่ยมที่สุดสำหรับในการมาท่องเที่ยวคือ เวลาเช้าหรือไม่ก็ตอนเวลาเย็น เนื่องจากว่าช่วงกลางวันถึงช่วงบ่ายนั้นอากาศรวมทั้งแดดแรงมากมาย
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวเด็ดๆโดนๆในประเทศเวียดนาม มีอีกทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและก็ประวัติศาสตร์ พูดได้ว่ามาเวียดนามทั้งทีได้ตระเวนท่องเที่ยวอย่างครบรสแน่นอน ส่วนระยะทางก็ใกล้นิดเดียว รวมถึงค่ายังชีพก็ไม่แพงอีกด้วยค่ะ

เทือกเขาทรายสองสีที่หมุยแหน นักเดินทางที่เดินทางมายังที่ที่นี้รับประกันได้เลยว่าจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่ใกล้เคียงกับทะเลทราย เนื่องจากภูเขาทรายที่หมุยแหนหรือที่ผู้คนจำนวนมากเคยชินกับสำเนียง “มุยเน่” นั้น มีขนาดใหญ่และก็อยู่ใกล้กับริมฝั่ง ก็เลยมีแดดรวมทั้งลมที่แรงมากทีเดียว ตรงนี้มีเนินทรายอยู่ 2 ที่เป็นเทือกเขาทรายขาวและก็ภูเขาทรายแดง ซึ่งภูเขาทรายขาวนั้นมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Bau Trang รวมทั้งมีร้านอาหารขนาดเล็กเปิดบริการสำหรับนักเดินทางด้วย สำหรับเทือกเขาทรายแดงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่า แต่เป็นที่ชื่นชอบมากยิ่งกว่าในสายตาของช่างถ่ายรูป เนื่องมาจากสีทรายมีสีแดงเข้ม ถ่ายรูปออกมาแล้วสีสวยกว่าที่เทือกเขาทรายขาว ส่วนกิจกรรมยอดฮิตเป็นการเล่นบอร์ดเลื่อนบนเนินทรายสูงลงมาข้างล่าง ซึ่งเครื่องไม้เครื่องมือสำหรับเล่นนั้นสามารถหาเช่าได้จากร้านค้าที่ตั้งอยู่ใกล้ๆเทือกเขาทราย

ข้อมูลเพิ่มเติม : เปิดให้บริการตลอดทั้งปี แต่ว่าขณะที่ดีเยี่ยมที่สุดสำหรับเพื่อการมาท่องเที่ยว คือ ตอนเวลาเช้าหรือไม่ก็ตอนเย็นเนื่องจากช่วงกลางวันถึงตอนเวลาบ่ายนั้นอากาศแล้วก็แดดแรงมาก
เป็นยังไงบ้างค่ะ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวเด็ดๆโดนๆในประเทศเวียดนาม มีทั้งยังแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและก็ประวัติศาสตร์ กล่าวได้ว่ามาเวียดนามทั้งทีได้สัญจรท่องเที่ยวอย่างครบรสแน่ๆ ส่วนระยะทางก็ใกล้นิดเดียว รวมทั้งค่ายังชีพก็ไม่แพงอีกด้วย

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์เวียดนาม

5 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวในเวียดนามที่คุณจะต้องไป อัพเดท 2018

เมื่อเอ่ยถึงเวียดนามใครๆก็ชอบรำลึกถึง โฮจิมินห์ เมืองหลวงทางตอนใต้ แต่ว่ารู้ไหมมีสถานที่เที่ยวใหม่ๆน่าดึงดูดอีกเยอะแยะในเวียดนามที่ขณะนี้กำลังเป็นกระแสอย่างยิ่งๆที่คุณไปเวียดนามจำต้องไม่พลาด เรามาอัพเดทกันวันเที่ยวเวียดนามทั้งทีจำต้องสุดๆ5 สถานที่ที่ไหนกันบ้าง เริ่มกันเลย

1. ท่องเที่ยวบาน่าฮิลล์ ดานัง (Bana Hill, Danang)
บานาฮิลล์ เป็น โรงแรม บนยอดดอย อยู่ห่างจากตัวเมืองดานังราว 40 กม. ใช้เวลาเดินทางราว 40-50 นาที ส่วนประวัติความเป็นมา เทือกเขาบานา เคยเป็นสถานที่สำหรับท่องเที่ยวพักผ่อนมาตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยด้านบนเป็นบ้านพักและก็โฮเต็ลของชาวประเทศฝรั่งเศสยุคเป็นเจ้าอาณานิคมตั้งแต่ปี 1919 ข้างหลังการรบชาวประเทศฝรั่งเศสพ่ายกลับประเทศไป บานาฮิลล์ถูกทิ้งร้างอยู่ยาวนานหลายปี จนกระทั่งถูกกลับมาซ่อมเป็นเมืองที่มีสถานที่สำหรับท่องเที่ยวมากมายเป็นจำนวนมากอีกทีในปี 2009 ซึ่งมีการสร้างกระเช้าลอยฟ้า 5,801 เมตร ที่ใช้เวลาถึง 50 นาทีสำหรับเพื่อการนั่งกระเช้าจากด้านล่างขึ้นไปข้างบน ค่าใช้สอยสำหรับการก่อสร้างเคเบิลคาร์ระยะแรกมีมูลค่า 17.2 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา และตอนที่สร้างต่อเพิ่มไปถึงยอดเขา มีมูลค่า 5.7 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา

ดังนี้ บานาฮิลล์ ถูกทำขึ้นตามมาตรฐานยุโรปโดยบริษัทที่เป็นที่รู้จักจากออสเตรเลีย วัสดุและก็เครื่องจักรนำเข้าจากยุโรป ตลอดทางประกอบไปด้วยเสา 24 ต้น มีทั้งหมด 94 เคบิน ตะกร้ามีแบบเปิดเตียนโอเพ่นแอร์กับแบบห้องกระจก แต่ละเคบินบรรทุกผู้โดยสารได้ 10 คน ภายในหนึ่งชั่วโมงสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 1,500 คน

2.ท่องเที่ยวถ้ำฟองญา (Phong Nha Caves)
เวียดนาม เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่มีนานัปการ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่เที่ยวที่มีความจำเป็นทางประวัติศาสตร์ หรือแม้กระทั่งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความสวยและน่ามาเยือนมากแห่งหนึ่งของโลก และก็วันนี้เราจะขอแนะนำสถานที่เที่ยวที่มีทั้งความงาม แล้วก็ความประทับใจ

โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักของอุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่างหมายถึงถ้ำฟองญา (Phong Nha Cave) ฯลฯเกิดของแม่น้ำซอน (Son River) ที่สะสมน้ำจากใต้ดินไหลรวมกันมาจากภายในถ้ำ และก็ได้รับการยอมรับจาก นักตรวจสอบถ้ำทั้งโลกว่า เป็นถ้ำลำดับที่หนึ่งของโลก เหตุเพราะเป็นเจ้าของสถิติถึง 4 รายการดังเช่นว่า น้ำลอดยาวที่สุดในโลก, โถงถ้ำเยอะที่สุด ยาวที่สุด แล้วก็กว้างที่สุด

“อุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง” (Phong Nha-Ke Bang National Park) เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายด้านการท่องเที่ยวที่น่ามาเยือนมากมายแห่งหนึ่งของประเทศเวียดนาม เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีความสะดุดตาทางธรรมชาติรวมทั้งทางธรรีวิทยา ที่มีวิวัฒนาการมาตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง (หรือราว 400 ล้านปี) นั่นจึงทำให้อุทยานแห่งนี้มีตำแหน่งที่ตั้งแบบหินปูนที่ดั้งเดิมที่สุดในเอเซีย อุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง ตั้งอยู่ในอำเภอโบ๊จัก (Bo Trach) และอำเภอมิญหวา (Minh Hoa) ในเขตจังหวัดกว๋างบิ่ญ (Quang Binh) รวมทั้งติดชายแดนประเทศลาว ห่างจากกรุงฮานอยมาตอนใต้โดยประมาณ 500 กิโล ด้านในเขตอุทยานมีกลุ่มหินปูนมีขนาดพื้นที่ 857.54 ตารางกิโลเมตร สวนนี้มีชื่อในความงามของถ้ำที่มีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว แล้วก็ยังเป็นสถานที่ 1 ใน 2 ของโลกที่เป็นหินปูนที่มีลำน้ำใต้ดินขนาดใหญ่

3.ท่องเที่ยวอ่าวฮาทดลอง (Ha Long Bay)
ฮาทดลองเบย์ หรือ อ่าวฮาลอง คือสถานที่เที่ยวสำคัญอีกแห่งในประเทศเวียดนามที่ชื่อเสียงมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งโลก ซึ่งนักท่องเที่ยวทุกคนไม่สมควรพลาดชม โดยตรงนี้ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากหน่วยงานยูเนสโกเนื่องจากมีความสวยสดงดงามของธรรมชาติเยอะมาก

ฮาทดลองเบย์ เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ย เมืองฮาลองตั้งอยู่ทางตอนเหนือของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม อยู่ภายในเขตพื้นที่จังหวัดกว่างนิงห์ ไม่ไกลจากกรุงฮานอยเมืองหลวง โดยห่างออกไปทางตะวันออกประมาณ 170 กิโล และอยู่ใกล้กับสาธารณรัฐประชาชนจีน ฮาทดลองเบย์ มีพื้นที่ทั้งหมด 1,500 ตารางกิโลเมตร มีชายฝั่งยาว 120 กม. มีเกาะหินปูนปริมาณ 1,969 เกาะโผล่พ้นขึ้นมาจากผิวทะเล บนยอดของแต่ละเกาะมีต้นไม้ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น หลายเกาะมีถ้ำขนาดใหญ่ที่มีความสวยซุกซ่อนอยู่

สำหรับประวัติความเป็นมา ฮาทดลองเบย์ มีชื่อตามการออกเสียงในภาษาเวียดนามว่า Vinh Ha Long คือ อ่าวมังกรผู้ดำดิ่ง ตามตำนานชาวบ้านเวียดนามบอกกล่าวกันว่า ในอดีตที่ชาวเวียดนามกำลังทำศึกกับจีน เทวดาได้ส่งกองทัพมังกรลงมาช่วยเหลือ ซึ่งถัดมามังกรเหล่านี้ได้ดำดิ่งลงสู่ท้องทะเลรอบๆอ่าวฮาลอง ทำให้มีอัญมณีแล้วก็หยกพุ่งกระเด็นออกมาเปลี่ยนเป็นเกาะแก่งน้อยใหญ่กระจายตัวเป็นเกราะคุ้มครองผู้รุกราน รวมทั้งบางตำนานพูดถึงสัตว์โบราณที่ชื่อว่า Tarasque ซึ่งมั่นใจว่าอาศัยอยู่ที่รอบๆตูดอ่าว

4.เที่ยวเมืองซาปา นาข้าวบนเขา (Sa Pa)
ซาขว้าง คือเมืองที่มีสถานที่สำหรับท่องเที่ยวมากมายเป็นจำนวนมากที่มีเสน่ห์มากที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศเวียดนาม ด้วยทำเลที่ตั้งอันสวยสดงดงามที่ห้อมล้อมไปด้วยขุนคีรีจนได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลังคาโลกอินโดจีน ส่วนอากาศหนาวเย็นแทบตลอดปีทำให้เช้าของตรงนี้มีไอหมอกปกคลุมสวย ในแต่ละปี ซาขว้าง ก็เลยเย้ายวนใจนักเดินทางจากทั้งโลกให้แวะเวียนมาท่องเที่ยวได้เยอะมากๆ

ในส่วนของประวัติความเป็นมา ซาปา เป็นเมืองเล็กๆที่นักเดินทางต่างชาติเริ่มเดินทางมาพักผ่อนตั้งแต่สมัยที่ฝรั่งเศสยังดูแลประเทศเวียดนาม โดยชาวตะวันตกชอบใจที่นี่เนื่องจากว่าอากาศดีรวมทั้งเงียบสงบ ต่อมาซาปาก็เลยโด่งดังและเป็นที่นิยมจากนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้นจนมีนักท่องเที่ยวมาเยือนหลายหมื่นคนต่อปี

5.เที่ยวหมุยแหน เทือกเขาทรายสองสี (The Sand Dunes of Mui Ne)
นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังที่ที่นี้รับประกันได้เลยว่าจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่ใกล้เคียงกับทะเลทรายเพราะเหตุว่าเทือกเขาทรายที่หมุยแหนหรือที่หลายๆคนเคยชินกับสำเนียง “มุยเน่” นั้น มีขนาดใหญ่และก็อยู่ติดกับชายทะเล ก็เลยมีแดดและก็ลมที่แรงมากมายทีเดียว ที่นี่มีเนินทรายอยู่ 2 แห่งเป็นภูเขาทรายขาวรวมทั้งเทือกเขาทรายแดง ซึ่งภูเขาทรายขาวนั้นมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Bau Trang แล้วก็มีร้านอาหารขนาดเล็กเปิดบริการสำหรับนักเดินทางด้วยสำหรับภูเขาทรายแดงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่า แต่เป็นที่ชื่นชอบมากยิ่งกว่าในสายตาของตากล้อง เพราะเหตุว่าสีทรายมีสีแดงเข้ม ถ่ายรูปออกมาแล้วสีสวยกว่าที่ภูเขาทรายขาว ส่วนกิจกรรมยอดฮิตหมายถึงการเล่นบอร์ดเลื่อนบนเนินทรายสูงลงมาด้านล่างซึ่งเครื่องมือสำหรับเล่นนั้นสามารถหาเช่าได้จากร้านค้าที่ตั้งอยู่ใกล้ๆภูเขาทราย

ข้อมูลเพิ่มเติม : เปิดให้บริการตลอดทั้งปี แต่ว่าช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการมาท่องเที่ยวเป็น ตอนเช้าหรือไม่ก็ช่วงเย็น เพราะเหตุว่ากลางวันถึงช่วงเวลาบ่ายนั้นอากาศและแดดแรงมากมาย
เป็นไงบ้างคะ สำหรับสถานที่เที่ยวเด็ดๆโดนๆในประเทศเวียดนาม มีสถานที่สำหรับท่องเที่ยวทางธรรมชาติรวมทั้งประวัติศาสตร์ เรียกได้ว่ามาเวียดนามทั้งทีได้สำรวจท่องเที่ยวอย่างครบรสแน่ๆ ส่วนระยะทางก็ใกล้นิดเดียว รวมทั้งค่ายังชีพก็ไม่แพงอีกด้วยจ้ะ

เทือกเขาทรายสองสีที่หมุยแหน นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังที่แห่งนี้รับประกันได้เลยว่าจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่ใกล้เคียงกับทะเลทราย ด้วยเหตุว่าภูเขาทรายที่หมุยแหนหรือที่คนไม่ใช่น้อยรู้จักกับสำเนียง “มุยเน่” นั้น มีขนาดใหญ่และอยู่ติดกับชายทะเล จึงมีแดดและลมที่แรงมากทีเดียว ตรงนี้มีเนินทรายอยู่ 2 แห่ง คือ ภูเขาทรายขาวแล้วก็ภูเขาทรายแดง ซึ่งเทือกเขาทรายขาวนั้นมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Bau Trang และมีห้องอาหารขนาดเล็กเปิดบริการสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย สำหรับเทือกเขาทรายแดงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่า แต่เป็นที่ชื่นชอบมากกว่าในสายตาของช่างถ่ายรูป ด้วยเหตุว่าสีทรายมีสีแดงเข้ม ถ่ายภาพออกมาแล้วสีงามกว่าที่เทือกเขาทรายขาว ส่วนกิจกรรมยอดฮิตหมายถึงการเล่นบอร์ดเลื่อนบนเนินทรายสูงลงมาข้างล่าง ซึ่งเครื่องมือสำหรับเล่นนั้นสามารถหาเช่าได้จากร้านที่ตั้งอยู่ใกล้ๆเทือกเขาทราย

รายละเอียดต่างๆนอกเหนือจากนี้ : เปิดให้บริการตลอดทั้งปี แม้กระนั้นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมสำหรับการมาเที่ยว คือ ช่วงเช้าหรือไม่ก็ช่วงเวลาเย็นเนื่องจากว่าช่วงกลางวันถึงช่วงบ่ายนั้นอากาศรวมทั้งแดดแรงมาก
เป็นไงบ้างขา สำหรับสถานที่เที่ยวเด็ดๆโดนๆในประเทศเวียดนาม มีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ เรียกได้ว่ามาเวียดนามทั้งทีได้ตระเวนท่องเที่ยวอย่างครบรสแน่นอน ส่วนระยะทางก็ใกล้นิดเดียว รวมถึงค่ายังชีพก็ไม่แพงอีกด้วย

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์เวียดนาม

5 สถานที่เที่ยวในประเทศเมียนมาร์ที่คุณจำต้องไป ไม่ใช่แค่การไปไหว้พระ อัพเดท 2018

ถ้าเกิดกล่าวถึง ประเทศพม่า เพื่อนบ้านที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากเมืองไทย จำนวนมากคนจำนวนไม่น้อยมักรำลึกถึงการไปไหว้พระแค่นั้น แต่ว่าความเป็นจริงเมียนมาร์ ยังมีสถานที่เที่ยวน่าสนใจหลายสไตล์ ที่มีค่าแก่การไปสัมผัสสักหนึ่งครั้ง วันนี้เรารวบรวม 5 สถานที่เที่ยวประเทศพม่า นอกเหนือจากการไหว้พระ มาให้ทุกคนรู้จัก จะมีที่แห่งใดบ้างนั้น มาดูกันเลย

1. เมืองพม่า ทะเลเจดีย์และวิถีชีวิตแบบพม่าๆ
นับว่าเป็นโชคดีของชาวพูกาม ที่ศาสนาพุทธเจริญรุ่งเรืองถึงระดับสูงสุดเช่นกันตอนนั้น ทำให้พระผู้เป็นเจ้าอโนรธามังช่อรับเอาพุทธเป็นศาสนาประจำประเทศ พระองค์สร้างเจดีย์แห่งแรกขึ้น ชื่อ “เจดีย์ชเวซีโกน” หลังจากนั้นกษัตริย์รุ่นต่อๆมา รวมถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และก็ผู้มีอันจะกินทั้งหลายในพูกามก็ระดมสร้างวัด สร้างเจดีย์กันเต็มพื้นที่ไปหมด อาจเนื่องจากว่าความศรัทธาที่ว่า ยิ่งเล่นใหญ่ เอ๊ย!! ยิ่งสร้างวัดใหญ่มหึมาแค่ไหน ยิ่งได้บุญกุศลบารมีมากแค่นั้น

อาณาจักรพูกามเคยรุ่งโรจน์ขนาดไหนพวกเราอาจจะไม่ต้องเล่า เพราะแทบ 1,000 ปีที่ล่วงเลยไปทั้งหมดทุกอย่างได้พิสูจน์ตัวเองไปเป็นระเบียบแล้ว ตัวเราต่างหากที่จะต้องมาพิสูจน์ความใหญ่โตนั้นด้วยตาของพวกเราเอง จากเจดีย์กว่า 4,446 องค์ วันนี้เหลือเพียงแค่ 2,200 กว่าองค์ ไม่รีบมาดูซะวันนี้ก็ไม่รู้จักว่าอีกหน่อยจะเหลือให้มองขนาดไหน

2. ตะลุยสวนน้ำ Yangon Water Boom
ถ้าหากโลกนี้มันร้อนนัก ก็ไปพักผ่อนเล่นน้ำกันที่สวนน้ำ Yangon Water Boom กันเลยดีกว่า! สถานที่เที่ยวในเมียนมาร์ อีกแห่งที่ต้องการเชิญคุณมาคลายร้อน โดยสวนน้ำ Yangon Water Boom ถือเป็นสวนน้ำแห่งแรกของประเทศพม่า ตั้งอยู่ในเมืองย่างกุ้ง ตรงนี้คุณจะได้เจอกับสไลด์เดอร์สุดเยี่ยมสุดยอด อีกทั้ง “Free Fall Slides” หวาดเสียวกับสไลด์เดอร์ที่มีความสูงถึง 15 เมตร! ให้คุณไหลลื่นลงมาด้วยความเร็วกว่า 70 กิโล/ชั่วโมง เรียกว่าเสียวกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว หรือจะเป็น “Python” ให้คุณและก็สหายๆนั่งสไลด์เดอร์ไปสนุกร่วมกัน ผ่านท่อสีเขียวที่วนเวียน ยาวกว่า 60 เมตร! นอกเหนือจากนี้ยังมีโซนสำหรับหนูน้อยอย่าง “Kiddy pool” สนามเด็กเล่นที่ให้น้องๆได้ชุ่มฉ่ำกับสายน้ำเย็น พร้อมบริการเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับช่วยในด้านสำหรับอำนวยความสะดวกล็อกเกอร์ บังกะโล ซาลอน ห้องอาหาร ร้านขายของที่ระลึก อย่างครบถ้วน หนีร้อนไปสนุกกับสวนน้ำในปิ้งกุ้งกันเลยดีกว่า

3. ท่องเที่ยวสะพานอูเบ็ง สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในโลก!
สะพานไม้ดั้งเดิม ที่มีอายุกว่า 200 ปี ทอดยาวด้วยความยาว 1,200 เมตร ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน สร้างด้วยไม้ปริมาณพันกว่าต้น พวกเราสามารถเดินดูสะพานไม้ไปเรื่อยๆได้ และก็ยิ่งในตอนที่ดวงอาทิตย์กำลังจะตกลงน้ำ(ดิน) บรรยากาศบริเวณรอบๆสะพาน จะเห็นได้ว่าแสงพระอาทิตย์แวววาวกับสายน้ำ นอกจากจะได้ดูความสวยงามของพระอาทิตย์ขึ้นและตกแล้ว ยังได้มองเห็นวิถีชีวิตของคนเมียนมาด้วย เป็นประสบการณ์ที่สุดตรึงใจตรึงตากันอย่างยิ่งจริงๆ

ของร้านขายเครื่องดื่ม ขายของกินบนเกาะ ดูพระอาทิตย์ตกในทะเลสาบ แถมมีปลาและกุ้งสดๆจากทะเลสาบ ให้ได้ลิ้มชิมรส นั่งพักผ่อนสบายๆแล้วรอคอยดูดวงอาทิตย์ตกได้อีกด้วย วิธีท้ายที่สุดเป็นแนวทางที่เสียตังต่ำที่สุด คือ สามารถยืนดูทิวทัศน์บนสะพานได้เลย ได้สัมผัสบรรยากาศไปอีกคนละอย่างจ้า

4. ทะเลสาบอินเล ทะเลสาบน้ำจืด รวมทั้งวิถีชีวิตคนอินเล
ทะเลสาบอินเล ตั้งอยู่กลางประเทศพม่าเลยก็ว่าได้ ทะเลสาบอินเลอยู่ในเมือง Nyaung Shwe เมืองเล็กๆที่ราษฎรดำรงชีวิตท่ามกลางทะลสาบ .. หื้มมม? เป็นประชาชนเค้าก่อสร้างบ้านรวมทั้งพักอาศัยกันในทะเลสาบเลยเอ็งรเอ้ยยย ต่อนี้ไปเนี่ย แน่ๆการดำเนินชีวิตรวมทั้งการเพาะปลูกหรือเกษตรกรรมของเค้าต้องเกี่ยวกับทางทะเล ดังเช่นว่า การปลูกมะเขือเทศบนสวนลอยน้ำ การสร้างบ้านแบบเสาค้ำกึ่งกลางน้ำ รวมถึงยานพาหนะต้องอย่างเรือ ที่แน่ๆมีจอดอยู่ทุกบ้าน แล้วที่สุดของทะเลสาบอินเลคือพรสวรรค์ของชาวอินค้างเนี่ยแหละ การนำยเรือด้วยเท้าฝ่ายเดียวในการสัญจรรวมทั้งจับสัตว์ในน้ำที่ไม่เหมือนใครในโลก ดังมากโว้ย ดังจนถึงตรงนี้เป็นอีกจุดมุ่งหมายนึงที่นักเดินทางจำต้องมาดูเลยแหละ รู้อย่างนี้แล้วตามไปเลยสิจ้าา

5. สัมผัสเกาะหัวใจมรกต แห่งทะเลเมียนมาร์.
เกาะค๊อกคอม เกาะหัวใจมรกต (Cocks Comb) เป็นเกาะที่อยู่ในสมุทรอันดามัน ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งจังหวัดระนองเพียงแต่ประมาณ 81.2 กิโลแค่นั้น เกาะที่นี้มีลักษณะเป็นเกาะหินปูน ไม่มีริมหาด มีช่องว่างอยู่กึ่งกลางเกาะ คล้ายกับปากปล่องภูเขาไฟ มีช่องเล็กๆให้น้ำทะเลเข้าไปได้ แม้ดูจากมุมสูงจะเห็นว่าช่องตรงกลางนี้มีรูปร่างคล้ายกับรูปหัวใจ เมื่อมีน้ำทะเลสีฟ้าอมเขียวใสแจ๋วเข้าไปในนั้น เพิ่มเติมกับบริเวณรอบปากปล่องมีต้นไม้สีเขียวชอุ่ม ทำให้รูปร่างหัวใจนี้แลเห็นแน่ชัด จนได้รับการขนานนามจากชาวไทยว่าเป็น “เกาะหัวใจมรกต” ซึ่งคนประเทศอื่นจะรู้จักกันในชื่อ “Hidden Lagoon”

มองเห็นไหมล่ะว่า การไปเที่ยวประเทศพม่า ก็มิได้มีแม้กระนั้นการไปไหว้พระ หรือ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างเดียวแค่นั้น เมียนมาร์ยังมีแหล่งธรรมชาติสวยๆอีกเพียบเลย ถูกใจคนชอบท่องเที่ยวชิลล์ๆสไตล์สโลว์ไลฟ์ ถ้าเกิดได้โอกาสทดลองไปเปิดมุมมองใหม่ให้การท่องเที่ยวพม่ากว้างขึ้นกว่าเดิม

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

5 สถานที่ท่องเที่ยวในเกาหลีใต้ ที่คุณห้ามพลาดเด็ดขาด อัพเดท 2018

เกาหลีใต้เป็นอีกหนึ่งประเทศที่คนประเทศไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยว เหตุเพราะใช้เวลาเดินทางไม่นานเพียงแค่ 5-6 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว แล้วก็ยังเป็นประเทศไม่ต้องขอวีซ่าท่องเที่ยวอีกด้วย แม้จะเอ๋ยถึงสถานที่เที่ยวในประเทศเกาหลีนั้นที่จริงแล้วมีจำนวนมากหลายที่ ดังนั้นคนไหนกำลังแพลุกลี้ลุกลนไปเที่ยวหรือกำลังตัดสินใจว่าจะท่องเที่ยวประเทศไหนดี ทดลองตามมามอง 15 สถานที่เที่ยวห้ามพลาดในเกาหลี แล้วจะต้องต้องการท่องเที่ยวแน่นอน

1. พระราชสำนักเคียงบกกุง Gyeongbokgung Palace
พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace) หรือเรียกอีกแบบหนึ่งว่า “วังคยองบกกุง” เป็นทั้งสัญญลักษณ์และแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของกรุงโซล วังที่มีขนาดใหญ่แล้วก็โบราณที่สุดในกรุงโซล ผลิตขึ้นในปี 1394 ในสมัยพระผู้เป็นเจ้าแทโจ วงศ์สกุลโชซอน แต่ก่อนนั้นด้านในพระราชวังมีตึกและพระราชวังต่างๆมากยิ่งกว่า 200 ข้างหลัง แต่ว่าเมื่อมีการรุกรานของญี่ปุ่น อาคารโดยมากก็ได้ถูกทำลายลงหลงเหลืออยู่เพียง 10 ข้างหลังแค่นั้น

2. เกาะนามิ สุดโรแมนตำหนิค Namiseom Island
เกาะนามิเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากผลของการกั้นน้ำเพื่อสร้างเขื่อน มีพื้นที่ประมาณ 270 ไร่ มีลักษณะเป็นรูปดวงจันทร์ครึ่งเสี้ยว บนเกาะนี้มีชื่อในหมู่คนเกาหลีมานานเนื่องมาจากมีธรรมชาติที่สวยสดงดงามยังมีสัตว์เล็กๆอาศัยอยู่ตามธรรมชาติอย่างเช่น กระรอก กระแต นก หงส์ ห่าน รวมถึงนกกระจอกเทศด้วย แล้วก็ที่นี่จะนำสายไฟลงใต้ดินทั้งหมดทั้งปวง เพียงแต่รักษาความเป็นธรรมชาติเอาไว้ โดยตอนที่มีนักท่องเที่ยวมาเยอะที่สุดจะเป็นช่วงๆฤดูใบไม้ร่วง เพราะเหตุว่าต้นไม้มากมายตรงนี้จะเปลี่ยนสีเหลือง สีแดง สีส้ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางเท้าใต้ต้นแปะก๊วยที่จะเปลี่ยนแปลงใบเป็นสีเหลืองสดสวยสดงดงามมากมาย แต่ที่นี่คนจะมากตลอดทุกฤดู

3. ทางรถไฟดอกซากุระคยองฮวา – Gyeonghwa Station
ทางรถไฟดอกซากุระคยองฮวา – Gyeonghwa Station ยอดเยี่ยมในจุดชมซากุระที่สวยอันดับหนึ่งของเกาหลีเลยก็ว่าได้ โดยสามารถแลเห็นรถไฟที่วิ่งมาหยุดที่สถานีกับวิวอุโมงค์ดอกซากุระที่เรียงรายกันอยู่เต็มทั้งสองข้างทางในช่วงประมาณต้นเดือนเมษายน สถานีรถไฟคยองฮวาที่นี้เป็นสถานีเล็กๆที่อยู่ที่เมืองจินแฮ (Jinhae) จังหวัดเคียงซังนัมโด (Gyeongsangnam-do) ได้มีการยกเลิกการใช้แรงงานไปแล้วตั้งแต่ปี 2015 แต่ว่าจะเปิดให้รถไฟวิ่งเฉพาะในตอนเทศกาล Jinhae Gunhangje Festival ซึ่งเป็นเทศกาลชมดอกซากุระที่จัดอย่างมากใหญ่ของเมืองจินแฮ แต่รถไฟนั้นจะไม่ได้มาจอดที่สถานี ก็แค่ใช้เป็นทางผ่านไปยังสถานีอื่นๆ

4. อุโมงค์ซากุระ ลำคลองยอชวาชอน – Yeojwacheon Stream
อุโมงค์ซากุระ คลองยอชวาชอน – Yeojwacheon Stream เป็นหนึ่งในจุดที่โด่งดังเยอะที่สุดในการดูดอกซากะของเมืองจินแฮ เริ่มเป็นที่รู้จักกันหลังจากซีรีย์เรื่อง Romance กระจายเสียงเมื่อปี 2002 ซึ่งใช้ลำคลองที่นี้เป็นฉากในการถ่ายทำ เลื่องลือจนมีชื่อเรียกสะพานที่ใช้ผ่านคลองตามชื่อซีรีย์มันก็คือ Ramance Bridge

ในทุกๆเมษายนของทุกปีซึ่งเป็นช่วงๆที่มีเทศกาลดูดอกซากุระ ที่คลองที่นี้จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชมความสวยงามของดอกซากุระ สามารถเดินเที่ยวได้ทั้งยังข้างบนสะพานและก็ข้างล่างซึ่งจะมีทางเท้ายาวตลอดแนวเรียบไปกับคูน้ำ และก็ยังมีดอกเรปซีดเซียวซึ่งเป็นดอกไม้ต้นเล็กออกดอกสีเหลืองบานพร้อมกันซากุระอีกด้วย แต่ละปีก็จะมีการตกแต่งตกแต่งรอบๆคลองในตอนที่จัดงานเทศกาล ไม่ว่าจะเป็นการนำร่มที่สีสันผ่องใสมาห้อยไว้หรือจะเป็นโคมรูปหัวใจสวยๆแล้วก็ในตอนค่ำคืนก็จะเปิดไฟตกแต่งสวยสดงดงามมาก

5. เขตช้อปปิ้งเมียงดง หรือ มยองป่า
ย่านช้อปปิ้งเมียงมองป่า หรือ มยองป่า (Myeong-dong) ตั้งอยู่จุดศูนย์กลางกรุงโซล เป็นย่านช้อปปิ้งที่ได้รับความนิยมแล้วก็คักคักที่สุดของกรุงโซล ยั่วยวนใจนักท่องเที่ยวได้มากกว่า 1 ล้านคนต่อวัน อีกทั้งยังสามารถเดินทางได้สะดวก ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางของการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมอย่างยิ่งจริงๆ ภายในตลาดเมียงป่าเต็มไปด้วยร้าน และก็ร้านอาหารนับไม่ถ้วน เป็นหนึ่งในสถานที่ยอดฮิตของนักเดินทางรวมทั้งนักช้อป

ห้างสรรพสินค้า
ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุด ดังเช่นว่า ห้างลอตเต้(Lotte) กับห้างคุ้นชินเซเอ็ง(Shinsegae) ส่วนร้านรวงอื่นๆก็ตั้งอยู่ทุกซอกมุม รวมทั้งร้านค้าเคลื่อนที่ข้างถนนที่จัดจำหน่ายเสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องแต่งตัว สินค้าอื่นๆในราคาไม่แพง รวมทั้งอาหารว่างแสนอร่อย โดยเจ้าของร้านส่วนใหญ่สามารถพูดภาษาอังกฤษ ญี่ปุ่น จีน รวมทั้งไทยได้

เป็นยังไงบ้าง 5 สถานที่เด็ดไหม สามารถติดตามชมการจัดสถานที่ท่องเที่ยวในเกาหลีใต้ ซึ่งมีอีกเยอะแยะจริงๆประเทศนี้ท่องเที่ยวอย่างไรก็ไปไม่หมดกล้วยๆหวังว่าเพื่อนฝูงๆคงชอบ และติดตามบทความของเรา คนไหนกันแน่ถูกใจขอความปรานีแชร์ให้เพื่อนๆได้อ่านกันด้วยนะ แล้วพบกันตอนใหม่

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์เกาหลี

เที่ยวประเทศพม่ากับทัวร์ สบายกว่าท่องเที่ยวเองยังไง…?

ดำเนินการกันมาอ่อนล้าๆทั้งปี ลองหาวันว่างนิดหน่อยหน่อย ท่องเที่ยวใกล้บ้านที่พม่ากันมั้ยคะ? ปี 2018 นี้ เมียนมาร์เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีนักท่องเที่ยวพึงพอใจท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้นกว่าทุกปี กล่าวได้ว่ามาแรงแซงทางโค้งมากยิ่งกว่าทัวร์ประเทศฮ่องกงรวมทั้งประเทศสิงคโปร์กันอย่างยิ่งจริงๆล่ะจ้ะ ต้นเหตุหนึ่งที่ทำให้ ทัวร์พม่า ได้รับความสนใจแล้วก็ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่าก็คือ การไป เที่ยวพม่าด้วยตัวเอง นับว่ายังเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยสะดวกเท่าไรนัก ถ้าหากคนใดไม่ใช่สายฝ่าหรือเตรียมความพร้อมรับการเสี่ยงได้ทุกสถานการณ์ แนะนำให้ เที่ยวประเทศพม่ากับทัวร์ คงจะตอบโจทย์มากกว่า หากใคร่รู้ว่าท่องเที่ยวแบบซื้อ ทัวร์พม่า สบายกว่าท่องเที่ยวเองอย่างไรมาดูกันค่ะ
1.การขนส่ง
ในพม่า รถยนต์สาธารณะแต่ละเมืองยังมีน้อย ทำให้การต่อรถหรือขึ้นลงเวลาจะเดินทางไปยังที่เที่ยวต่างๆบางทีก็อาจจะไม่ค่อยสบายสักเท่าไหร่ ประกอบกับป้ายบอกทางก็เป็นภาษาพม่าทั้งนั้น ทำให้บางครั้งก็อาจจะจำต้องใช้เวลามากมาย แถมบางครั้งอาจยังหลงทางแบบไม่คาดคิดอีกด้วย ดังนั้นถ้าหากจะไป ท่องเที่ยวพม่าด้วยตัวเอง จำต้องทำการบ้านหนักพอควรเลยล่ะจ้ะ แต่ว่าถ้าหากไปเที่ยวเมียนมาร์กับทัวร์ ก็จะสะดวกสบายมากมาย เพราะมีรถยนต์รับส่งตลอดทริป ถ้าไปเที่ยวสถานที่ต่างๆที่แต่ละจุดห่างไกลกัน ไปกับทัวร์จะคุ้มกว่ามากเลยจ้ะ
2.การสื่อสารภาษาพูด
ท่องเที่ยวต่างแดน สิ่งนึงที่จำเป็นต้องเจอเป็นขั้นตอนแรกก็คือไม่เหมือนกันในเรื่องของภาษา ในตัวเมืองย่างกุ้ง เรายังพอเพียงติดต่อสื่อสารภาษาอังกฤษกับคนท้องถิ่นได้ตามธรรมดา ดังเช่น การสั่งอาหาร หรือถามทาง แม้กระนั้นถ้าออกไปเที่ยวนอกเมืองปิ้งกุ้ง จะเจอผู้คนที่สื่อสารภาษาอังกฤษได้ลดน้อยลง ก็บางครั้งก็อาจจะจะต้องใช้หลายๆความสามารถเพื่อสื่อสารกันให้รู้เรื่อง แต่ว่าหากไป ท่องเที่ยวกับทัวร์ ก็จะมีไกด์หรือหัวหน้าทัวร์ ช่วยคุย หรือจัดแจงตลอดการเดินทางเลยค่ะ
3.ห้องอาหาร
เรื่องปากท้องเป็นสิ่งจำเป็นเลยจ้ะ ไปเที่ยวก็จะต้องได้ลองลองอาหารของแคว้นนั้นๆด้วย ถ้าไปเที่ยวเองบางทีอาจจะลำบากหน่อยเวลาพบอาหารที่ไม่คุ้นหน้าคุ้นหน้าสั่งไปและจากนั้นก็จำเป็นต้องมาลุ้นอีกว่ามันเป็นยังไง กินได้มั้ย แต่ว่าหากไปเที่ยวเมียนมาร์กับทัวร์ไม่ต้องลุ้นเรื่องอาหาร ว่ารสจะถูกปากไหม สะอาดหรือไม่ เนื่องจากว่าบริษัททัวร์จะคัดร้านอาหารที่ถูกสุขลักษณะ รสชาติกับคนประเทศไทย แถมไม่ต้องต่อคิวคอยของกินลงอีกด้วย
4.การไหว้พระขอพร สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์
พม่าลือชื่อในเรื่องของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยต้องการท่องเที่ยวแสวงบุญที่เมียนมาร์สักหนึ่งครั้งในชีวิต แต่ถ้าหากไปเที่ยวเอง ไปถึงสถานที่ทั้งทีถ้าเกิดไม่เคยรู้กรรมวิธีไหว้ที่ถูกต้องก็คงจะไปแบบมึนๆทำอะไรไม่ค่อยถูก รวมทั้งไม่เคยทราบเช่นเดียวกันว่าที่ไหว้ไปแล้วเป็นวิธีที่ถูกหรือไม่ แต่ถ้าไปเที่ยวกับทัวร์ คุณจะได้รับบริการคำแนะนำจากไกด์ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ รวมทั้งคำเสนอแนะหัวข้อการแต่งตัว การสวดภาวนา ไหว้พระ ขอพร สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในแต่ละสถานที่ พร้อมคำบรรยายที่จะทำให้ท่านเข้าใจประวัติความเป็นมาของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นั้นๆอย่างถูกต้องลึกซึ้ง
5.สบายมากเมื่อพาคุณพ่อคุณแม่ท่องเที่ยว
ถ้าหากลูกๆคนไหนกัน ต้องการพาพ่อกับแม่ท่องเที่ยวเมียนมาร์ ไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แนวทางในการเลือกซื้อ ทัวร์ประเทศพม่า ไปเที่ยวนั้นจะเหมาะสมมากที่สุดเลยจ้ะเนื่องจากว่าคุณจะได้ในเรื่องของความปลอดภัย ความสบายสบายสำหรับในการเดินทาง ของกินต่างๆรวมทั้งที่พักแบบนอนสบาย แถมยังไม่ต้องถือกระเป๋าสัมภาระเองให้อิดโรยอีกด้วย
6.ไม่ต้องลุ้นเรื่องที่พัก
ถ้าไป เที่ยวพม่าด้วยตัวเอง เวลาจองห้องพักไปแล้ว พอเพียงไปถึงที่พักคุณอาจต้องลุ้นว่าที่พักจะดีงามเหมือนกับที่อ่าน Review มาไหม แต่ถ้าเกิดซื้อ ทัวร์เมียนมาร์ ส่วนใหญ่ในโปรแกรมจะจัดที่พักอย่างยอดเยี่ยม เป็นโฮเต็ลระดับ 4-5 ดาว ยืนยันว่าสะอาดและก็ไม่เป็นอันตราย พักได้สุขใจ ไม่ต้องลุ้นแน่ๆจ้ะ
แนวทางในการเลือกซื้อ ทัวร์เมียนมาร์ ก็เป็นอีกหนึ่งโอกาสสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาในการคิดแผนหรือเล่าเรียนหาข้อมูลเที่ยวด้วยตัวเอง ทั้งหากว่าทริปนี้มีคุณพ่อและก็รวมทั้งคุณแม่หรือคนชราร่วมทริปด้วย การไป เที่ยวเมียนมาร์กับทัวร์ ก็ดูเหมือนสมควรและก็คุ้มมากยิ่งกว่าท่องเที่ยวเองแน่ๆจ้ะส่วนคนไหนเป็นสายลุย จะท่องเที่ยวด้วยตัวเองกับแฟนหรือสหายๆก็น่าจะได้ประสบการณ์ที่สนุกแปลกใหม่ไปอีกแบบ อย่างไรก็ลองเลือกการเที่ยวที่เหมาะสมกับตัวเองดูนะคะ

เยือนมัณฑะเลย์ เมืองที่มนต์เสน่ราชเมืองสุดท้ายของประเทศพม่า

“เยี่ยมมัณฑะเลย์ เมืองแห่งมนต์เสน่ราชบุรีสุดท้ายของเมียนมาร์”
วันนี้พวกเราจะมาชี้แนะสถานที่ท่องเที่ยงในเมียนมาร์อีกมุมมองหนึ่งก็คือเมืองมัณฑะเลย์ มัณฑะเลย์เป็นเมืองที่มีอารายธรรมเฉพาะบุคคล เป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวคลั่งไคล้กระทั่งไม่ทราบลืม
มัณฑะเลย์เป็นอดีตเมืองหลวงราชธานีในที่สุดก่อนที่จะเสียประเทศให้กับการรุกรานของอังกฤษ ที่นี่ถือเมืองใหญ่ชั้นที่สองของประเทศพม่ารองจากนครย่างกุ้ง ตั้งอยู่ในเขตฝั่งทิศตะวันออกของแม่น้ำอิรวดี ห่างจากปิ้งกุ้งประมาณ 716 กิโลและก็พระผู้เป็นเจ้ามินดงทรงย้ายราชธานี มาก่อตั้งเป็นเมืองหลวงราชบุรีในปี คริสต์ศักราช 2400 โดยพระผู้เป็นเจ้าไม่นป่า โดยตั้งชื่อตามภูเขามัณฑะเลย์ ที่อยู่ใกล้เคียง วงเวียนของเมืองมัณฑะเลย์
พม่า
เป็นเมืองดั้งเดิมตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 16 เป็นเมืองที่ติดอันดับเมืองที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางด้านประวัติศาสตร์ที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของประเทศพม่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งความใหญ่โตของเจดีย์เยอะๆกว่า5,000 องค์ จนได้รับสมญานามว่าเป็นเมืองแห่งเจดีย์สี่พันองค์ ซึ่งเป็นลักษณะที่บอกถึงความเจริญก้าวหน้าของศาสนาพุทธในประเทศเมียนมาร์ได้อย่างดีเยี่ยมคนทั่วไปจึงขนานนามเมืองพูกามนี้ว่าเป็นอู่อาริยธรรมของประเทศ
เทือกเขามัณฑะเลย์ฮิลล์
เป็นจุดสำหรับชมวิวงามและก็มีสถานที่ควรค่าแก่การเคารพบูชาสำคัญๆให้นักท่องเที่ยวได้ดู อีกทั้งมองธรรมชาติ มองทิวภาพอันสวยงามที่สุด และก็สามรถยนต์ดูเมืองมัณฑะเลย์ ได้แทบทั้งหมด สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองมัณฑะเลย์ได้เป็นอย่างดี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักเดินทางต่างพากันแวะเวียนมาสัมผัส เที่ยวชมตลอดระยะเวลา
สะพานไม้อูเบ็ง
สะพานไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก สร้างขึ้นในยุคพระผู้เป็นเจ้าโบดอพญา สร้างขึ้นเพื่อผ่านทะเลสาบToungthamon ระยะทางกว่า 1 กิโล ข้อดีของสะพานเเห่งนี้นอกเหนือจากการที่จะเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดเเล้วนั้น สะพานอูเบ็ง ยังผลิตมาจากไม้สัก ที่รื้อถอนมาจากวัง เเห่งกรุงอังวะ
ใส่บาตรพระ
กิจกรรมยอดฮิตที่พลาดมิได้เมื่อไปเยื่อนพม่าเป็นการตักบาตรพระ ในตอนเวลาสายๆจะมีพระประเทศพม่าเดินเข้าคิวออกมาเพื่อรับบิณฑบาตโดยใช้บาตรที่ทำจากไผ่สานลงรักสีดำสนิท โดยบริเวณวัดจะมีคนมาเร่ขายคอกไม้ ข้าวโพดต้ม กับข้าวต่างๆหรือหากไม่ต้องการซื้อเราสามารถถวายเงินตามกำลังศรัทธาได้เลย
นี่เป็นเพียงแค่ภาพบรรยากาศส่วนหนึ่งส่วนใดของเมืองมัณฑะเลย์ นอกเหนือจากนี้ประเทศพม่ายังมีสถานที่เที่ยวที่สวยสดงดงาม รวมทั้งน่าสนใจอีกเพียบเลยที่ยังคอยพวกเราไปสัมผัสไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิต และวัฒนธรรมที่มีความคล้ายคลึงกับไทยเรา แล้วก็ที่สำคัญใช้เวลาเดินทางแค่เพียงไม่กี่ชั่วโมง คนใดมีเวลาว่างๆก็อย่าลืมพม่า ไม่งกะละบานะขา

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

10 สิ่งที่จำต้องทราบและก็ควรจะทำเมื่อท่องเที่ยวในพม่า

1. จัดเวลามากยิ่งกว่า 1 อาทิตย์สำหรับในการเที่ยวท่องเที่ยวดู
การเที่ยวเมียนมาร์จำเป็นที่จะต้องใช้เวลามากยิ่งกว่า 1 อาทิตย์ ด้วยการเดินทางที่ยังไม่สบายนักแล้วก็ทางที่ยาวไกล 1 สัปดาห์ดูเหมือนรีบร้อนเหลือเกินรวมทั้งยังเที่ยวได้ไม่ทั่ว แม้คุณมีเวลา 2 หรือ 4 อาทิตย์ให้คิดแผนทางท่องเที่ยวบริเวณสถานที่สำหรับท่องเที่ยวหลัก 4 ที่โดยการบินไปลงเมืองใหญ่สักแห่งรวมทั้งบินกลับจากอีกเมืองหนึ่ง
2. สัมผัสประวัติศาสตร์ พร้อมๆกับชอปแล้วก็กินให้กระจายในปิ้งกุ้ง
ปิ้งกุ้ง เป็นเมืองขนาดกระชับที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา มีสถาปัตยกรรมจากยุคอาณานิคมกระจายอยู่ทั่วทุกมุมเมืองเชิญชวนให้คิดถึงอดีตกาลที่ประเทศนี้อยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ ในเวลาที่มหาเจดีย์ชเวดากองก็ส่องประกายสีทองสวยงามเป็นเครื่องหมายของพุทธศาสนาอันเจริญรุ่งเรือง ที่นี่ชุมชนชาวจีน เนปาล รวมทั้งประเทศอินเดียตั้งอยู่เคียงข้างชุมชนชาวเมียนมาร์ ที่พักราคาเริ่มต้นที่ 3,xxx บาท
3. หลงทางในวัดที่พม่า
ประเทศพม่า ดินแดนลึกลับเหนือระยะเวลานี้เป็นที่ตั้งของวัดกว่า 2,000 แห่งที่ทำขึ้นตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 9 ตั้งแต่วัดขนาดใหญ่ที่สง่าสวย ไปจนถึงวัดเล็กๆที่สร้างละเอียดลออบรรจง ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็จะรู้สึกเสมือนกำลังเดินทางย้อนเวลา ที่นี่ใช้การเดินทางด้วยรถม้าเป็นหลัก (โดยประมาณ 600 บาทต่อวัน) แม้กระนั้นการขี่จักรยาน (โดยประมาณ 90 บาทต่อวัน) เป็นแนวทางเดินทางที่เหมาะสมที่สุดในการท่องเที่ยวแบบเต็มวันรวมทั้งประพฤติกลมกลืนไปกับผู้คนนับร้อย ที่พักในประเทศพม่า ราคาเริ่มต้นที่ 5xx บาท
4. ศึกษาค้นพบความสงบรวมทั้งประเพณีดั้งเดิมที่ทะเลสาบอินเล
ทะเลสาบอินเล (ใหญ่เป็นอันดับสองของเมียนมาร์) เป็นราวกับกระจกเงาสีน้ำเงินสะท้อนภาพอันงดงามของหมู่บ้านเล็กๆเขื่อนที่สร้างด้วยมือและก็คลองที่ใช้คนขุด ที่นี่ยังคงรักษาจารีตเก่าแก่(รวมทั้งคนหาปลาที่พายเรือด้วยเท้าด้านเดียว) บรรยากาศสงบเงียบ และก็การค้าแบบเริ่มแรก อีกทั้งยังมีตลาดผลไม้ อุตสาหกรรมสิ่งทอ และสวนองุ่นที่อยู่ไม่ไกล หากอยากชมทะเลสาบแบบสงบเงียบไม่ต้องฝ่าผู้คนเราขอแนะนำให้รีบไปแต่เช้า
5. ลิ้มรสของอร่อย และก็หัวเราะร่า ขณะท่องไปในเมืองมัณฑะเลย์อันสวยงาม
มัณฑะเลย์ เป็นเมืองที่มีกิจกรรมอันหลากหลายให้ทำจนถึงล้นเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการชมวิวเมืองจากยอดเขามัณฑะเลย์ หลังจากที่ระหกระเหินทัวร์ไปในราชวัง เจดีย์ แล้วก็หนังสือที่ใหญ่ที่สุดในโลก ลิ้มลองของกินใหม่ๆจากร้านค้าเคลื่อนที่สองข้างทางซึ่งมีเยอะแยะมากซะจนน่าทึ่งที่กระจายตัวอยู่ทั้งเมือง และหัวเราะให้ลั่นกับพี่น้องหนวดนักเล่นตลกการเมืองที่จัดการแสดงตลกโปกฮาทุกวันในบ้านของครอบครัว ตั๋วเครื่องบินไปมัณฑะเลย์ราคาเริ่มต้นที่ 3,xxx บาท
6. ไปเดินป่าหลายๆวัน และนั่งรถไฟผ่านสะพานที่สูงที่สุด
ถ้าหากการเดินป่าแบบสามวันจากสีป้อไปลาชิวยังเร้าใจน้อยเกินไป ให้เพิ่มรายการนั่งรถไฟสายที่สร้างโดยอังกฤษผ่านสะพานรถไฟก๊อกเต๊กซึ่งเป็นสะพานรถไฟที่สูงที่สุดในประเทศพม่า รถไฟสายที่จะทำให้คุณใจเต้นระทึกนี้ผ่านเมืองพินอูลวินซึ่งเป็นเมืองอาณานิคมเก่า เมื่อรถไฟไปถึงสะพานแล้ว อย่าลืมมองลงมาให้ได้ เพราะความสูงที่น่าหวาดเสียวจะมีผลให้คุณลืมไม่ลงไปเลยทีเดียว
7. ลงใต้ไปเยือนเกาะสวรรค์ หมู่เกาะมะริด เมียนมาร์
เพราะว่าเขตด้านเหนือหลายเมืองยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปได้ ตอนใต้ก็เลยเป็นที่ๆเข้าถึงได้ง่ายดายเสียยิ่งกว่าเพราะเหตุว่าได้เปิดให้ท่องเที่ยวชมได้มากกว่า 1 ปีแล้ว มะละแหม่งแล้วก็ทวายเป็นเส้นทางที่ไม่มีอะไรเทียบได้และให้บรรยากาศแคว้นสุดๆซึ่งจะนำคุณไปยังเมืองมะริดอันน่ามหัศจรรย์ เมืองนี้เองเป็นประตูสู่หมู่เกาะมะริดที่สวยสดงดงามเกินจริงโดยคุณสามารถวางแผนล่วงหน้าเพื่อจองทัวร์ล่องเรือรวมทั้งทัวร์แบบค้างแรมหลายๆที่พักในเมืองมะริด ราคาเริ่มต้นที่ 5xx บาท
8. เลือกว่าจะไปตอนไหนดี
คุณมีสองช่องทางคือ ฤดูท่องเที่ยวในต.ค.ถึงกุมภาพันธ์ซึ่งอากาศกำลังสบายแม้กระนั้นมีนักท่องเที่ยวล้นหลามรวมทั้งตัวเลือกที่พักก็เหลือน้อย หรือจะไประหว่างเดือนกุมภาพันธ์/มี.ค. ถึง พฤษภาคมซึ่งเป็นตอนที่นักเดินทางน้อยกว่าแต่ว่าอากาศก็ร้อนเหลือเกิน ทดลองเลือกแบบที่ใช่กันเลย!
9. ดอลล่าร์แบงค์ใหม่ๆสำหรับจ่ายโฮเต็ล อื่นๆจ่ายด้วยเงินจ๊าด
ในเมียนมาร์คุณจำต้องใช้เงินดอลล่าร์แบงค์ใหม่ๆซึ่งหาได้จากแหล่งแลกเงินใกล้บ้านหรือในกรุงเทพมหานคร จากนั้นนำดอลล่าร์ไปแลกเงินจ๊าดถึงที่เหมาะท่าอากาศยาน เกสท์เฮ้าส์ หรือธนาคารในประเทศพม่า เงินดอลล่าร์ใช้สำหรับจ่ายค่าที่พัก ส่วนเงินจ๊าดใช้จ่ายเงินค่าอื่นๆตามทางตัวอย่างเช่น ของกิน ค่าเดินทาง แล้วก็ของที่ระลึก ในเมียนมาร์มีตู้เอทีเอ็มเฉพาะในเมืองใหญ่ 
10. ร้องเพลงฆ่าเวลาขณะเดินทาง รถไฟในประเทศพม่า
รักจะท่องเที่ยวประเทศพม่าจำเป็นต้องทำความเข้าใจที่จะสนุกไปกับการเดินทางบนรถบัสอันยาวนาน เนื่องจากเป็นการขนส่งหลักที่ใช้เดินทางไปทั่วทั้งประเทศ รถบัสหลายคันจะออกเวลาบ่ายแก่ๆโดยคุณจะไปถึงที่หมายในช่วงค่ำ หรือเช้ามืดพรุ่งนี้ บนรถบัสชอบมีคาราโอเกะไว้บริการและก็บางคันก็เปิดคาราโอเกะตั้งแต่รถออกไปจนกระทั่งที่หมายอย่างยิ่งจริงๆ

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

ข้อมูลที่ควรจะรู้ในประเทศพม่า

การตรวจลงตรา (VISA) 
ชาวไทยที่ถือหนังสือเดินทางธรรมดาจะต้องขอรับการตรวจลงตราจากสถานทูตประเทศพม่าก่อนเดินทางไปพม่า ซึ่งโดยทั่วไปจะมีอยู่ 3 ประเภท เป็น
– Tourist Visa พักอยู่ในประเทศพม่าได้ 4 สัปดาห์
– Business Visa พักพิงอยู่ในพม่าได้10 อาทิตย์
– Entry Visa พำนักอยู่ในพม่าได้ 4 อาทิตย์
ผู้ที่อยากได้อยู่ในเมียนมาร์เกินกว่า 4 สัปดาห์ ต้องยื่นเรื่องขอ Stay Permit จากกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองของพม่า ดังนี้คนที่อยู่ในเมียนมาร์เกินกว่า 4 อาทิตย์ จะต้องยื่น Departure Form ต่อทางการประเทศพม่าก่อนที่จะเดินทางออกนอกประเทศพม่า
ความเป็นอยู่ ชีวิตความเป็นอยู่ในพม่า มีความสบายเฉพาะอยู่ในกรุงปิ้งกุ้งและก็เมืองใหญ่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเท่า นั้น ในกรุงปิ้งกุ้งมีโรงแรมชั้นยอดได้มาตรฐานหลายแห่ง สำหรับคนที่จะไปอยู่เพื่อทำงานหรือประกอบธุรกิจมีที่พักให้เลือกอีกทั้งบ้านเช่า หรือ Serviced apartment การอยู่อพาร์ทเมนท์มีจุดเด่นในแง่ผู้เช่าไม่ต้องวิตกกังวลปัญหาไฟฟ้าและน้ำ ประปา แม้กระนั้นค่าใช้จ่ายสำหรับเช่าออกจะสูงส่วนผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคในกรุงย่างกุ้งหาซื้อได้ทั่วๆไปโดยมีสินค้าที่นำเข้าจากไทยหลายแบบรวมทั้งในกรุงปิ้งกุ้งมีห้องอาหารไทยหลาย ร้าน คนที่จะเข้าไปเขตวัดหรือพุทธเจดีย์ จะต้องถอดรองเท้าแล้วก็ถุงเท้า บางที่เรียกเก็บเงินค่าเข้าชมสถานที่ด้วย รัฐบาลได้ระบุห้ามฝรั่งเดินทางไปยัง บางเมืองหรือบางพื้นที่ถ้านักท่องเที่ยวต้องการไปเมืองที่ไม่ใช่สถานที่สำหรับท่องเที่ยวของเมียนมาร์ ควรจะตรวจดูข้อมูลกับบริษัทนำเที่ยวก่อนในกรุงย่างกุ้งมีรถเมล์รวมทั้งรถยนต์ แท็กซี่ แต่คนขับแท็กซี่ส่วนใหญ่กล่าวภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ ราคาขึ้นกับการเจรจาต่อรองเหตุเพราะรถแท็กซี่ไม่มีมิเตอร์ ในกรุงย่างกุ้งมีสถานพยาบาลที่นำสมัยไม่ กี่แห่ง รวมทั้งเหมาะสมเพียงแค่การปฐมพยาบาลเพียงแค่นั้น ผู้เดินทางไปประเทศพม่าควรตระเตรียมยา ดังเช่นว่า ยาแก้ไข้หวัด ยาแก้ท้องร่วง และยาประจำตัวไปด้วย และควรจะเลือกทานอาหารที่สะอาด
คำแนะนำ กรณีหนังสือเดินทางหาย ขอให้รีบแจ้งเหตุต่อสถานีตำรวจเขตแดน แล้วนำหลักฐานการแจ้งความไปยื่นต่อสถานทูต เพื่อขอทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ แม้หนังสือเดินทางหมดอายุก็สามารถขอยืดอายุหรือขอทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ ที่สถานทูตได้เหมือนกัน คนที่อยู่ในเมียนมาร์ควรตรวจทานอายุหนังสือเดินทางอยู่เป็นประจำ
ข้อควรกระทำ
1 ในที่สาธารณะควรแต่งกายสุภาพ รัดกุม เป็นระเบียบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าไปในวัดและศาสนสถานต้องถอดถุงเท้า รองเท้า ถุงน่อง คุณผู้หญิงไม่ควรแต่งกายด้วยกระโปรงสั้น 
2 ควรมีความสำรวมในวัดแล้วก็ศาสนสถาน ไม่ส่งเสียงดังรบกวนคนอื่น (ทั้งนี้ วัดบางแห่งอาจเรียกเก็บค่าเข้าชมด้วย)
3 ควรให้ความเคารพนับถือต่อผู้สูงวัย รวมทั้งใช้กริยาถ้อยคำเรียบร้อยเรียบร้อย
4 ต่อราคาสินค้าและก็ค่าโดยสารรถแท๊กซี่ได้
5 ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพควรจัดเตรียมยาประจำตัวมาด้วย
6 ควรรอบคอบเลือกกินอาหารและก็น้ำกินจากร้านค้าที่สะอาดถูกสุขลักษณะ โดยเฉพาะน้ำกิน ควรจะกินน้ำที่บรรจุในขวด
7 ควรจะแลกเงินดอลลาร์สหรัฐติดตัวมาให้พอเพียงด้วยเหตุว่าโรงแรมร้านรวงในเมียนมาร์ ส่วนใหญ่จะไม่รับบัตรเครดิตหรือ Traveller’s Cheque สภาพของแบงค์ควรอยู่ในภาวะใหม่ ดี ไม่ยับไม่มีรอยขูดขีดและควรจะเป็นแบงค์รุ่นใหม่ ดังนี้ธนบัตร 100 ดอลลาร์สหรัฐ ที่หมายเลขขึ้นต้นด้วย CB โรงแรมแล้วก็ร้านรวงในเมียนมาร์บางทีอาจปฏิเสธที่จะไม่รับ
8 เนื่องด้วยประเทศพม่าใช้ระบบการจราจรขับรถชิดทางด้านขวาของถนนหนทางซึ่งแตกต่างจากไทยจำเป็นจะต้อง ใช้ความระแวดระวังในการเดินเท้าแล้วก็การข้ามถนนเพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ
ข้อไม่สมควรที่จะทำ
1 ไม่ควรกล่าวติเตียน เปรียบเทียบเมียนมาร์ในทางลบ เนื่องจากมีชาวประเทศพม่าจำนวนมากซึ่งสามารถรู้เรื่องภาษาไทยได้
2 เมียนมาร์ได้เปลี่ยนชื่อประเทศเป็นthe Union of Myanmar ตั้งแต่ปี 2531 จึงไม่สมควรใช้ ชื่อเดิม(Burma) กับชาวเมียนมาร์

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

ข้อมูลที่ควรจะรู้ในประเทศพม่า

การตรวจลงตรา (VISA) 
คนไทยที่ถือหนังสือเดินทางธรรมดาจะต้องขอรับการตรวจลงตราจากสถานทูตเมียนมาร์ก่อนเดินทางไปประเทศพม่า ซึ่งโดยทั่วไปจะมีอยู่ 3 จำพวก คือ
– Tourist Visa พักอยู่ในเมียนมาร์ได้ 4 อาทิตย์
– Business Visa พักพิงอยู่ในประเทศพม่าได้10 สัปดาห์
– Entry Visa พักพิงอยู่ในพม่าได้ 4 สัปดาห์
คนที่ต้องการอยู่ในประเทศพม่าเกินกว่า 4 อาทิตย์ ต้องยื่นเรื่องขอ Stay Permit จากกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองของประเทศพม่า ทั้งนี้ผู้ที่อยู่ในเมียนมาร์เกินกว่า 4 อาทิตย์ ต้องยื่น Departure Form ต่อทางการพม่าก่อนจะเดินทางออกนอกเมียนมาร์
ความเป็นอยู่ ชีวิตความเป็นอยู่ในประเทศพม่า มีความสบายเฉพาะอยู่ในกรุงย่างกุ้งรวมทั้งเมืองใหญ่ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเท่า นั้น ในกรุงปิ้งกุ้งมีโรงแรมคุณภาพดีได้มาตรฐานหลายที่ สำหรับคนที่จะไปอยู่เพื่อดำเนินงานหรือประกอบธุรกิจมีที่พักให้เลือกทั้งบ้านเช่า หรือ Serviced apartment การอยู่อพาร์ทเมนท์มีข้อดีในแง่ผู้เช่าไม่จำเป็นที่จะต้องมาวิตกกังวลปัญหาไฟฟ้าและน้ำ ประปา แม้กระนั้นค่าเช่าค่อนข้างจะสูงส่วนผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคในกรุงย่างกุ้งหาซื้อได้ทั่วไปโดยมีสินค้าที่นำเข้าจากไทยหลายแบบแล้วก็ในกรุงปิ้งกุ้งมีห้องอาหารไทยหลาย ร้านค้า คนที่จะเข้าไปเขตวัดหรือพุทธเจดีย์ จะต้องถอดรองเท้าและถุงเท้า บางที่เรียกเก็บเงินค่าเข้าชมสถานที่ด้วย รัฐบาลได้กำหนดห้ามคนต่างประเทศเดินทางไปยัง บางเมืองหรือบางพื้นที่แม้นักท่องเที่ยวต้องการไปเมืองที่ไม่ใช่สถานที่สำหรับท่องเที่ยวของพม่า ควรจะวิเคราะห์ข้อมูลกับบริษัทนำเที่ยวก่อนในกรุงปิ้งกุ้งมีรถประจำทางและรถ แท็กซี่ แต่คนขับแท็กซี่จำนวนมากบอกภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ ราคาขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อรองด้วยเหตุว่ารถแท็กซี่ไม่มีมิเตอร์ ในกรุงปิ้งกุ้งมีสถานพยาบาลที่ล้ำยุคไม่ กี่ที่ และเหมาะเพียงการรักษาพยาบาลเบื้องต้นแค่นั้น ผู้เดินทางไปพม่าควรจัดแจงยา เช่น ยาแก้ไข้หวัด ยาแก้ท้องร่วง และยาประจำตัวไปด้วย และควรที่จะทำการเลือกกินอาหารที่สะอาด
ข้อเสนอแนะ กรณีหนังสือเดินทางหาย ขอให้รีบแจ้งความต่อสถานีตำรวจท้องถิ่น แล้วนำหลักฐานการแจ้งความไปยื่นต่อสถานทูต เพื่อขอทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ หากหนังสือเดินทางหมดอายุก็สามารถขอต่ออายุหรือขอทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ ที่สถานทูตได้เหมือนกัน ผู้ที่อยู่ในเมียนมาร์ควรจะตรวจดูอายุหนังสือเดินทางอยู่เป็นประจำ
ข้อควรกระทำ
1 ในที่สาธารณะควรจะแต่งตัวเรียบร้อย รัดกุม เป็นระเบียบเรียบร้อย โดยเฉพาะการเข้าไปในวัดแล้วก็ศาสนสถานต้องถอดถุงเท้า รองเท้า ถุงน่อง สุภาพสตรีไม่ควรแต่งกายด้วยกระโปรงสั้น กางเกงที่มีขาสั้น
2 จะต้องมีความสำรวมในวัดและก็ศาสนสถาน ไม่ส่งเสียงดังก่อกวนผู้อื่น (ดังนี้ วัดบางแห่งบางทีอาจเรียกเก็บค่าเข้าชมด้วย)
3 ควรให้ความนับถือต่อผู้สูงวัย และก็ใช้คำกริยาคำพูดสุภาพอ่อนโยนเป็นระเบียบ
4 ต่อราคาผลิตภัณฑ์และก็ค่าใช้จ่ายสำหรับโดยสารรถแท๊กซี่ได้
5 คนที่มีปัญหาสุขภาพควรจะจัดเตรียมยาประจำตัวมาด้วย
6 ควรรอบคอบเลือกกินอาหารและก็น้ำกินจากร้านที่สะอาดถูกสุขลักษณะ โดยเฉพาะน้ำดื่ม ควรจะกินน้ำที่ใส่ในขวด
7 ควรแลกเงินดอลลาร์สหรัฐประจำตัวมาให้เพียงพอเนื่องจากโรงแรมร้านในพม่า ส่วนใหญ่จะไม่รับบัตรเครดิตหรือ Traveller’s Cheque สภาพของแบงค์ควรจะอยู่ในสภาพใหม่ ดี ไม่ยับไม่มีรอยขูดขีดและควรจะเป็นธนบัตรแบบใหม่ ทั้งนี้ธนบัตร 100 ดอลลาร์สหรัฐ จุดหมายเลขขึ้นต้นด้วย CB โรงแรมและก็ร้านค้าในประเทศพม่าอาจไม่ยอมรับที่จะไม่รับ
8 เนื่องด้วยเมียนมาร์ใช้ระบบการจราจรขับรถชิดทางด้านขวาของถนนหนทางซึ่งไม่เหมือนกับไทยจำเป็นต้อง ใช้ความระวังในการเดินเท้าและก็การข้ามถนนเพื่อเลี่ยงอุบัติเหตุ
ข้อไม่สมควรที่จะทำ
1 ไม่สมควรกล่าวว่ากล่าว เทียบพม่าในทางลบ เนื่องจากมีชาวประเทศพม่าหลายชิ้นที่สามารถรู้เรื่องภาษาไทยได้
2 ประเทศพม่าได้เปลี่ยนชื่อประเทศเป็นthe Union of Myanmar ตั้งแต่ปี 2531 ก็เลยไม่สมควรใช้ ชื่อเดิม(Burma) กับชาวเมียนมาร์

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

10 สิ่งที่จะต้องรู้รวมทั้งควรทำเมื่อท่องเที่ยวในเมียนมาร์

1. จัดเวลามากยิ่งกว่า 1 อาทิตย์สำหรับการเที่ยวเที่ยวชม
การเที่ยวประเทศพม่าจะต้องใช้เวลามากยิ่งกว่า 1 สัปดาห์ ด้วยการเดินทางที่ยังไม่สะดวกนักและเส้นทางที่ยาวไกล 1 สัปดาห์ดูจะรีบร้อนเหลือเกินแล้วก็ยังท่องเที่ยวได้ไม่ทั่ว หากคุณมีเวลา 2 หรือ 4 อาทิตย์ให้คิดแผนเส้นทางท่องเที่ยวบริเวณแหล่งท่องเที่ยวหลัก 4 แห่งโดยการบินไปลงเมืองใหญ่สักแห่งและก็บินกลับจากอีกเมืองหนึ่ง
2. สัมผัสประวัติศาสตร์ พร้อมๆกับชอปแล้วก็กินให้กระจายในย่างกุ้ง
ย่างกุ้ง เป็นเมืองขนาดกะทัดรัดที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา มีสถาปัตยกรรมจากสมัยอาณานิคมกระจายอยู่ทั่วทุกมุมเมืองเชื้อเชิญให้คนึงถึงอดีตกาลที่ประเทศนี้อยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ ตอนที่มหาเจดีย์ชเวดากองก็ส่องประกายสีทองแพรวพราวเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาพุทธอันเจริญก้าวหน้า ตรงนี้ชุมชนคนจีน เนปาล และก็อินเดียตั้งอยู่เคียงข้างชุมชนชาวเมียนมาร์ ที่พักราคาเริ่มที่ 3,xxx บาท
3. หลงทางในวัดที่ประเทศพม่า
พูกาม ดินแดนลึกลับเหนือระยะเวลานี้เป็นที่ตั้งของสงฆ์กว่า 2,000 แห่งที่ผลิตขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 9 ตั้งแต่วัดขนาดใหญ่ที่สง่าสวยสดงดงาม ไปจนกระทั่งวัดเล็กๆที่สร้างอย่างประณีตบรรจง ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็จะรู้สึกเหมือนกำลังเดินทางย้อนเวลา ตรงนี้ใช้การเดินทางด้วยรถม้าเป็นหลัก (โดยประมาณ 600 บาทต่อวัน) แม้กระนั้นการขี่จักรยาน (ราว 90 บาทต่อวัน) เป็นวิธีเดินทางที่ดีเยี่ยมที่สุดสำหรับเพื่อการท่องเที่ยวแบบเต็มวันรวมทั้งประพฤติตนกลมกลืนไปกับผู้คนนับร้อย ที่พักในพม่า ราคาเริ่มที่ 5xx บาท
4. ศึกษาค้นพบความสงบเงียบรวมทั้งขนบธรรมเนียมเริ่มแรกที่ทะเลสาบอินเล
ทะเลสาบอินเล (ใหญ่เป็นชั้นสองของเมียนมาร์) เป็นดั่งกระจกส่องสีน้ำเงินสะท้อนภาพอันงามของหมู่บ้านเล็กๆเขื่อนที่สร้างด้วยมือรวมทั้งคลองที่ใช้คนขุด ตรงนี้ยังคงรักษาจารีตโบราณ(แล้วก็ชาวประมงที่พายเรือด้วยเท้าด้านเดียว) บรรยากาศสงบเงียบ และก็การค้าแบบเริ่มแรก ทั้งยังยังมีตลาดผลไม้ อุตสาหกรรมสิ่งทอ และก็สวนองุ่นที่อยู่ไม่ไกล แม้อยากชมทะเลสาบแบบสงบไม่ต้องฝ่าผู้คนเราขอแนะนำให้รีบไปแต่เช้า
5. ลิ้มรสของอร่อย รวมทั้งหัวเราะร่า ขณะท่องไปในเมืองมัณฑะเลย์อันสวยงาม
มัณฑะเลย์ เป็นเมืองที่มีกิจกรรมอันนานาประการให้ทำจนล้นเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการดูทิวทัศน์เมืองจากยอดเขามัณฑะเลย์ หลังจากที่เร่ร่อนทัวร์ไปในราชวัง เจดีย์ และหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในโลก ลิ้มรสอาหารใหม่ๆจากร้านหาบเร่สองข้างทางซึ่งมีเยอะมากเสียจนน่าทึ่งที่กระจายตัวอยู่ทั่วเมือง และก็หัวเราะให้ลั่นกับญาติหนวดนักเล่นตลกการเมืองที่จัดแจงแสดงเฮฮาทุกวี่วันในบ้านของครอบครัว ตั๋วเครื่องบินไปมัณฑะเลย์ราคาเริ่มที่ 3,xxx บาท
6. ไปเดินป่าหลายๆวัน แล้วก็นั่งรถไฟผ่านสะพานที่สูงที่สุด
ถ้าเกิดการเดินป่าแบบสามวันจากสีป้อไปลาชิวยังตื่นเต้นไม่พอ ให้เพิ่มรายการนั่งรถไฟสายที่สร้างโดยอังกฤษผ่านสะพานรถไฟก๊อกเต๊กซึ่งเป็นสะพานรถไฟที่สูงที่สุดในพม่า รถไฟสายที่จะทำให้ท่านใจเต้นระทึกนี้ผ่านเมืองพินอูลวินซึ่งเป็นเมืองอาณานิคมเก่า เมื่อรถไฟไปถึงสะพานแล้ว อย่าลืมดูลงมาให้ได้ ด้วยเหตุว่าความสูงที่น่าหวาดเสียวจะมีผลให้คุณลืมไม่ลงไปอย่างยิ่งจริงๆ
7. ลงใต้ไปเยือนเกาะสรวงสวรรค์ หมู่เกาะมะริด เมียนมาร์
เพราะว่าเขตทางด้านเหนือหลายเมืองยังไม่เปิดให้นักเดินทางเดินทางเข้าไปได้ ทางด้านใตนก็เลยเป็นที่ๆเข้าถึงได้ง่ายดายยิ่งกว่าเพราะเหตุว่าได้เปิดให้ท่องเที่ยวดูได้มากกว่า 1 ปีแล้ว มะละแหม่งและก็ทวายเป็นเส้นทางที่ไม่มีอะไรเปรียบเทียบได้และให้บรรยากาศท้องถิ่นสุดๆซึ่งจะนำคุณไปยังเมืองมะริดอันน่าพิศวง เมืองนี้เองเป็นประตูสู่หมู่เกาะมะริดที่สวยสดงดงามอัศจรรย์โดยคุณสามารถคิดแผนล่วงหน้าเพื่อจองทัวร์ล่องเรือรวมทั้งทัวร์แบบพักแรมหลายๆที่พักในเมืองมะริด ราคาเริ่มต้นที่ 5xx บาท
8. เลือกว่าจะไปตอนไหนดี
คุณมีสองช่องทางเป็น ฤดูท่องเที่ยวในเดือนตุลาคมถึงก.พ.ซึ่งอากาศกำลังสบายแต่มีนักท่องเที่ยวล้นหลามและตัวเลือกที่พักก็เหลือน้อย หรือจะไประหว่างเดือนกุมภาพันธ์/มีนาคม ถึง พ.ค.ซึ่งเป็นช่วงๆที่นักท่องเที่ยวน้อยกว่าแม้กระนั้นอากาศก็ร้อนเหลือเกิน ทดลองเลือกแบบที่ใช่กันเลย!
9. ดอลล่าร์แบงค์ใหม่ๆสำหรับจ่ายโฮเต็ล อื่นๆจ่ายด้วยเงินจ๊าด
ในประเทศพม่าคุณจะต้องใช้เงินดอลล่าร์แบงค์ใหม่ๆซึ่งหาได้จากแหล่งแลกเปลี่ยนเงินใกล้บ้านหรือในจังหวัดกรุงเทพมหานคร แล้วหลังจากนั้นนำดอลล่าร์ไปแลกเงินจ๊าดถึงที่เหมาะท่าอากาศยาน เกสท์เฮ้าส์ หรือธนาคารในเมียนมาร์ เงินดอลล่าร์ใช้สำหรับจ่ายค่าที่พัก ส่วนเงินจ๊าดใช้จ่ายเงินค่าอื่นๆตามทางอาทิเช่น ของกิน ค่าเดินทาง และของที่ระลึก ในประเทศพม่ามีตู้เครื่องรับฝากถอนเงินอัตโนมัติเฉพาะในเมืองใหญ่ 
10. ขับร้องฆ่าเวลาขณะเดินทาง รถไฟในพม่า
รักจะเที่ยวเมียนมาร์จำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะสนุกไปกับการเดินทางบนรถบัสอันนาน ด้วยเหตุว่าเป็นการขนส่งหลักที่ใช้เดินทางไปทั้งประเทศ รถบัสหลายคันจะออกตอนบ่ายแก่ๆโดยคุณจะไปถึงที่หมายในช่วงค่ำ หรือรุ่งสางวันรุ่งขึ้น บนรถบัสชอบมีคาราโอเกะไว้บริการและก็บางคันก็เปิดคาราโอเกะตั้งแต่รถยนต์ออกไปจนถึงที่หมายอย่างยิ่งจริงๆ

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า